
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“คนควรให้ของที่ควรให้”
พุทธศาสนสุภาษิต “คนควรให้ของที่ควรให้” มาจากพระบาลีบทว่า ทเทยฺย ปุริโส ทานํ (ขุ. ชา. สตฺตก. ๒๗/๒๑๗) เป็นสุภาษิตที่สอนให้เรารู้จัก “การให้” อย่างมีสติปัญญา โดยคำนึงถึงความเหมาะสมในหลายๆ ด้าน สามารถแยกความหมายของคำต่างๆ ได้ดังนี้
- คน หมายถึง มนุษย์ ทุกคน ไม่จำกัดเพศ วัย ฐานะ
- ควรให้ หมายถึง ควรจะให้ ควรมีจิตใจเสียสละ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
- ของที่ควรให้ หมายถึง สิ่งของ หรือ สิ่งที่เป็นประโยชน์ ที่เหมาะสมแก่ผู้รับ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เป็นโทษ และไม่เป็นบาปแก่ผู้ให้
เมื่อนำความหมายมารวมกัน พุทธศาสนสุภาษิตนี้ จึงหมายความว่า “คนเราควรให้สิ่งของ หรือ สิ่งที่เป็นประโยชน์ ที่เหมาะสมแก่ผู้รับ”
สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือก “ของที่ควรให้”
- ประโยชน์ที่ผู้รับจะได้รับ: สิ่งของนั้นควรเป็นประโยชน์ ก่อให้เกิดความสุข ความเจริญแก่ผู้รับ ไม่ใช่สิ่งที่ไร้ประโยชน์ หรือเป็นโทษ
- ความเหมาะสมกับผู้รับ: สิ่งของนั้นควรเหมาะสมกับวัย เพศ ฐานะ ความต้องการ และกาลเทศะของผู้รับ
- ความบริสุทธิ์ของผู้ให้: สิ่งของนั้นควรได้มาด้วยความบริสุทธิ์ สุจริต ไม่ใช่สิ่งของที่ได้มาจากการเบียดเบียน ฉ้อโกง หรือผิดกฎหมาย
- เจตนาของผู้ให้: ผู้ให้ควรมีเจตนาที่ดี หวังดีต่อผู้รับ ปราศจากความโลภ ความเห็นแก่ตัว
ตัวอย่างของที่ควรให้
- ให้ทานแก่ผู้ยากไร้: ควรให้สิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค
- ให้ของขวัญแก่เด็ก: ควรให้ของเล่นที่เสริมสร้างพัฒนาการ ไม่ใช่ของเล่นที่รุนแรง หรือไม่เหมาะสมกับวัย
- ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วย: ควรให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมกับอาการ เช่น พาไปพบแพทย์ จัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก
ตัวอย่างของที่ไม่ควรให้
- ให้เหล้า บุหรี่แก่เด็ก: เป็นการส่งเสริมให้เด็กทำสิ่งที่ผิด เป็นโทษต่อสุขภาพ
- ให้เงินแก่คนขอทานที่นำไปใช้ในทางที่ผิด: เช่น นำไปซื้อยาเสพติด เป็นการสนับสนุนให้ทำความชั่ว
- ให้สิ่งของที่ได้มาโดยมิชอบ: เช่น ของโจร เป็นการส่งเสริมการทำผิดกฎหมาย
พุทธศาสนสุภาษิตนี้ สอนให้เรามีสติปัญญาในการให้ เลือกให้สิ่งที่เหมาะสม เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เป็นโทษ และไม่เป็นบาป เพื่อให้การให้นั้นเป็นไปเพื่อความสุข ความเจริญ ทั้งแก่ผู้รับและผู้ให้