
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“คนพาลเท่านั้น ย่อมไม่สรรเสริญทาน”
พุทธศาสนสุภาษิต “คนพาลเท่านั้น ย่อมไม่สรรเสริญทาน” มาจากพระบาลีบทว่า พาลา หเว นปฺปสํสนฺติ ทานํ (ขุ. ธ. ๒๕/๓๘) มีความหมายดังนี้
- คนพาล หมายถึง คนที่มีความประพฤติชั่ว ไม่มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป มีจิตใจหยาบช้า เห็นแก่ตัว มักทำลายตนเองและผู้อื่น
- ทาน หมายถึง การให้ หมายรวมถึงการให้ทั้งวัตถุสิ่งของ และการให้ธรรมะ
- สรรเสริญ หมายถึง การยกย่อง ชมเชย
เมื่อรวมความหมายทั้งหมดแล้ว พุทธศาสนสุภาษิตนี้ จึงหมายความว่า “มีแต่คนพาลเท่านั้น ที่จะไม่ยกย่อง ชมเชย การให้ทาน”
เหตุผลที่คนพาลไม่สรรเสริญทาน
- ความตระหนี่: คนพาลมักมีใจคับแคบ เห็นแก่ตัว ไม่ต้องการแบ่งปันสิ่งใดให้กับใคร
- ความอิจฉาริษยา: เมื่อเห็นผู้อื่นให้ทาน ก็จะเกิดความอิจฉา ริษยา ไม่พอใจ
- ไม่เห็นคุณค่าของทาน: คนพาลไม่เข้าใจถึงคุณค่าของการให้ทาน มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เสียเวลา และทำให้ตนเองเสียทรัพย์
ความสำคัญของการสรรเสริญทาน
การสรรเสริญทาน เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ
- เป็นการส่งเสริมให้ผู้อื่นทำความดี: เมื่อมีคนยกย่อง ชมเชย การให้ทาน ก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นอยากทำความดีบ้าง
- เป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีในสังคม: สังคมที่เต็มไปด้วยการให้ และการยกย่องการให้ ย่อมเป็นสังคมที่น่าอยู่
- เป็นการสั่งสมบุญกุศลให้กับตนเอง: การอนุโมทนาบุญ ร่วมยินดีในการให้ทานของผู้อื่น ก็ถือเป็นการสั่งสมบุญกุศลให้กับตนเองด้วย
พุทธศาสนสุภาษิตนี้ สอนให้เราเห็นความสำคัญของการให้ทาน และการส่งเสริมการให้ทาน พร้อมทั้งเตือนสติให้เรา อย่าเป็นคนพาลที่เห็นแก่ตัว แต่จงเป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี รู้จักแบ่งปัน และยกย่อง ชมเชย การให้ทานของผู้อื่น