เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ทุกข์เสมอด้วยขันธ์ ไม่มี
ทุกข์เสมอด้วยขันธ์ ไม่มี

ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“ทุกข์เสมอด้วยขันธ์ ไม่มี”

พุทธศาสนสุภาษิต “ทุกข์เสมอด้วยขันธ์ ไม่มี” มาจากพระบาลีบทว่า นตฺถิ ขนฺธสมา ทุกฺขา (ขุ. ธ. ๒๕/๔๒) เป็นสุภาษิตที่สั้น แต่แฝงไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้ง ชี้ให้เห็นถึงสัจธรรมของชีวิต โดยสามารถแยกความหมายของคำต่างๆ ดังนี้

  • ทุกข์ หมายถึง ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ความทุกข์ทรมาน ความไม่สมหวัง ซึ่งเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่งในอริยสัจ ๔
  • เสมอด้วย หมายถึง เท่าเทียมกับ เหมือนกับ
  • ขันธ์ หมายถึง กลุ่มก้อนของรูปธรรมและนามธรรม ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิต ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (ขันธ์ ๕)
  • ไม่มี หมายถึง ไม่มีสิ่งใด ไม่ปรากฏ

เมื่อนำความหมายมารวมกัน พุทธศาสนสุภาษิตนี้ จึงหมายความว่า “ไม่มีความทุกข์ใด ที่จะเทียบเท่ากับความทุกข์ที่เกิดจากขันธ์ ๕”

ความทุกข์ที่เกิดจากขันธ์ ๕

ขันธ์ ๕ เป็นสิ่งที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิต และเป็นต้นเหตุของความทุกข์ ดังนี้

  • รูป: ร่างกายของเรา ไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทำให้เกิดความทุกข์
  • เวทนา: ความรู้สึก ทั้งสุข ทุกข์ และเฉยๆ ล้วนเป็นความทุกข์ เพราะไม่เที่ยง แปรปรวน เป็นเหตุให้เกิดความยึดมั่น ถือมั่น
  • สัญญา: ความจำได้หมายรู้ เป็นเหตุให้เกิดความยึดมั่น ถือมั่น ในสิ่งต่างๆ เกิดความหลงผิด
  • สังขาร: ความคิดปรุงแต่ง เป็นเหตุให้เกิดกิเลส ตัณหา อุปาทาน นำไปสู่ความทุกข์
  • วิญญาณ: การรับรู้ เป็นเหตุให้เกิดการยึดมั่น ถือมั่น ในอารมณ์ต่างๆ เกิดความทุกข์

ไม่มีทุกข์ใดเสมอด้วยขันธ์

ความทุกข์ที่เกิดจากขันธ์ ๕ เป็นความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ความทุกข์อื่นๆ เช่น ความทุกข์จากการพลัดพราก ความทุกข์จากการสูญเสีย ล้วนเป็นความทุกข์ชั่วคราว ไม่คงทน ไม่สามารถเทียบเท่ากับความทุกข์ที่เกิดจากขันธ์ ๕

การดับทุกข์

การดับทุกข์ที่แท้จริง คือการดับทุกข์ที่เกิดจากขันธ์ ๕ ซึ่งทำได้โดยการปฏิบัติตามหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ เพื่อละกิเลส ตัณหา อุปาทาน ในขันธ์ ๕ เมื่อละได้แล้ว ก็จะดับทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง

พุทธศาสนสุภาษิตนี้ สอนให้เราตระหนักถึงความทุกข์ที่เกิดจากขันธ์ ๕ และมุ่งมั่นปฏิบัติธรรม เพื่อหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....