เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

บัณฑิตพึงทำตนให้ผ่องแผ้วจากเครื่องเศร้าหมองจิต
บัณฑิตพึงทำตนให้ผ่องแผ้วจากเครื่องเศร้าหมองจิต

“บัณฑิตพึงทำตนให้ผ่องแผ้วจากเครื่องเศร้าหมองจิต” มาจากบาลีบทว่า ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ จิตฺตเกฺลเสหิ ปณฺฑิโต (สํ. มหา. ๑๙/๒๙. ขุ. ธ. ๒๕/๒๖.) เป็นพุทธศาสนสุภาษิตที่ให้แง่คิดเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง ความหมายโดยรวมคือ

คนที่มีปัญญา ควรชำระล้างจิตใจของตนให้สะอาดหมดจด ปราศจากกิเลสที่ทำให้เศร้าหมอง

อธิบายความหมาย

  • บัณฑิต: หมายถึง คนดี ผู้มีปัญญา รู้จักเหตุผล และ ความถูกต้อง
  • ทำตนให้ผ่องแผ้ว: หมายถึง การขัดเกลาพัฒนาตนเองทั้งทางกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ปราศจากความชั่ว
  • เครื่องเศร้าหมองจิต: หมายถึง กิเลส ตัณหา อุปาทาน ต่าง ๆ ที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองขุ่นมัว เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง

เปรียบเทียบให้เห็นภาพ

  • จิตใจของบัณฑิต เปรียบเหมือน กระจกที่สะอาดใสสามารถสะท้อนภาพได้อย่างชัดเจน
  • กิเลส เปรียบเหมือน คราบสกปรกที่บดบังทำให้กระจกขุ่นมัวมองเห็นภาพได้ไม่ชัดเจน

หลักธรรมที่เกี่ยวข้อง

  • ศีล สมาธิ ปัญญา: เป็นหลักธรรมที่ช่วยชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์
  • พรหมวิหาร 4: เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นธรรมะที่ช่วยขัดเกลาจิตใจให้สูงขึ้น
  • การเจริญสติ: การมีสติรู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกของตนเองเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำจัดกิเลส

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้:

  1. การควบคุมอารมณ์: ฝึกสติเมื่อเกิดความโกรธหรือความเครียด เพื่อไม่ให้จิตใจถูกครอบงำด้วยอารมณ์ด้านลบ
  2. การลดความโลภ: มีความพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ลดความอยากได้อยากมีในสิ่งที่ไม่จำเป็น
  3. การปล่อยวาง: ไม่ยึดติดกับสิ่งที่ทำให้จิตใจเป็นทุกข์ เช่น การให้อภัยและไม่ผูกโกรธ

ประโยชน์ของการทำตนให้ผ่องแผ้ว

  • มีความสุข สงบ ภายใน: เมื่อจิตใจสะอาดปราศจากกิเลสก็จะพบกับความสุขที่แท้จริง
  • มีปัญญา มองเห็น สิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง: ไม่หลงไปตามอารมณ์ความรู้สึก
  • มีเมตตา ต่อ ผู้อื่น: จิตใจที่บริสุทธิ์ย่อมเปี่ยมไปด้วยความรัก และความปรารถนาดีต่อผู้อื่น
  • ดำเนินชีวิต อย่าง ถูกต้อง: ไม่ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหา

สรุป

การทำตนให้ผ่องแผ้วจากเครื่องเศร้าหมองจิตเป็นสิ่งที่บัณฑิตหรือคนดีควรมุ่งมั่นปฏิบัติเพื่อพัฒนาตนเองให้มีจิตใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง นำไปสู่ความสุขที่แท้จริง และการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่า


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....