
“ถ้ารู้ว่าตนเป็นที่รัก ก็ควรรักษาตนนั้นให้ดี” มาจากบาลีบทว่า อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตํ (ขุ. ธ. ๒๕/๓๖.) เป็นพุทธศาสนสุภาษิตที่ให้แง่คิดเตือนใจเราในเรื่องการรักตัวเองอย่างถูกวิธี ความหมายโดยรวมคือ
เมื่อรู้ตัวว่ามีคุณค่า เป็นที่รัก ก็ยิ่งควรดูแลรักษา พัฒนาตนเองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
อธิบายความหมาย
- รู้ว่าตนเป็นที่รัก: หมายถึง การตระหนักรู้ในคุณค่าของตัวเอง เข้าใจว่าตัวเองเป็นที่รักของพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือคนรอบข้าง ซึ่งความรักนี้เป็นแรงผลักดันให้เราอยากเป็นคนที่ดีขึ้น
- รักษาตนนั้นให้ดี: หมายถึง การดูแลรักษาทั้งร่างกายและจิตใจ พัฒนาตนเองให้มีคุณธรรม ความรู้ ความสามารถ ประพฤติแต่สิ่งที่ดีงาม เพื่อไม่ให้คนที่รักเราต้องผิดหวัง และเพื่อให้ตัวเองมีคุณค่าคู่ควรกับความรักที่ได้รับ
หลักธรรมที่เกี่ยวข้อง
- อัตตัญญุตา: การรู้จักตนเอง เข้าใจในคุณค่า ข้อดี ข้อเสียของตนเอง
- การพัฒนาตนเอง: การหมั่นฝึกฝน ศึกษา พัฒนาตนเอง ให้เป็นคนที่ดีขึ้น มีคุณค่ามากขึ้น
- ความกตัญญู: การตอบแทนความรัก ความหวังดี ของคนที่รักเรา ด้วยการ ประพฤติตน เป็นคนดี
ประโยชน์ของการรักษาตน
- ทำให้ชีวิตมีความหมาย: การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ทำให้เรารู้สึกภูมิใจในตัวเอง
- เป็นที่รักของคนรอบข้าง: ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้ อยากคบหา กับคนดี
- มีโอกาสที่ดีในชีวิต: คนที่มีคุณภาพย่อมมีโอกาส ได้รับสิ่งดีๆ ในชีวิต
- สร้างความสุขให้ตัวเองและผู้อื่น: การเป็นคนดี ทำให้ ทั้งตัวเรา และคนรอบข้าง มีความสุข
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้:
- ในครอบครัว: หากได้รับความรักและดูแลจากครอบครัว เราควรปฏิบัติตัวดี ไม่ทำสิ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้พวกเขา
- ในความสัมพันธ์: เมื่อรู้ว่าคนรักให้ความสำคัญ เราควรแสดงความซื่อสัตย์และดูแลความสัมพันธ์นั้นให้มั่นคง
- ในสังคม: เมื่อเป็นที่นับถือในที่ทำงานหรือชุมชน ควรรักษาความไว้วางใจด้วยการทำงานอย่างซื่อสัตย์และตั้งใจ
สรุป
การรักตัวเองไม่ใช่การตามใจตัวเองหรือหลงตัวเอง แต่คือการตระหนักในคุณค่าของตัวเอง และพัฒนาตนเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อตอบแทนความรักที่ได้รับ และเพื่อชีวิตที่ดีมีคุณค่าของเราเอง