
“ผู้ประพฤติดี ย่อมฝึกตน” มาจากพุทธศาสภาษิตบทว่า อตฺตานํ ทมยนฺติ สุพฺพตา (ขุ. ธ. ๒๕/๓๔.) หมายถึง คนที่ประพฤติดี ย่อมหมั่นฝึกฝนอบรมตนเองอยู่เสมอ ทั้งทางกาย วาจา ใจ เพื่อรักษาความดีงาม และพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นไป
ความหมายโดยละเอียด
- ผู้ประพฤติดี: หมายถึง คนที่ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม มีคุณธรรม จริยธรรม เช่น ซื่อสัตย์ สุจริต มีเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
- ฝึกตน: หมายถึง การพัฒนาตนเอง ขัดเกลา ปรับปรุง แก้ไข ในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้ดียิ่งขึ้น
การฝึกตนของผู้ประพฤติดี
- กาย: ดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง มีสุขภาพดี ละเว้นอบายมุข เช่น การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การเล่นการพนัน
- วาจา: ฝึกฝนการพูดจาให้ไพเราะ สุภาพ มีเหตุผล รู้จักกาลเทศะ พูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่พูดโกหก ส่อเสียด นินทา
- ใจ: ฝึกฝนจิตใจให้สงบ เข้มแข็ง มีสติ รู้เท่าทันอารมณ์ เช่น การฝึกสมาธิ การเจริญปัญญา การปล่อยวาง การแผ่เมตตา
ประโยชน์ของการฝึกตน
- ทำให้เป็นคนดีขึ้น: การฝึกตน ช่วยให้เราควบคุมกาย วาจา ใจ ให้ประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม ละเว้นความชั่ว
- ทำให้มีความสุข: การฝึกตน ทำให้จิตใจสงบ ผ่องใส เป็นอิสระ ไม่ตกเป็นทาสของกิเลส
- เป็นที่รักของคนทั่วไป: คนที่ประพฤติดี มักจะเป็นที่รัก ที่เคารพ ของคนทั่วไป
ตัวอย่าง
- คนที่รักษาศีล 5 ก็ต้องหมั่นฝึกฝนตนเอง ไม่ให้ประพฤติผิดศีล
- คนที่ใจร้อน ก็ต้องฝึกฝนตนเอง ให้มีความอดทน มีสติ ควบคุมอารมณ์
- คนที่ชอบพูด ก็ต้องฝึกฝนตนเอง ให้รู้จักพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และพูดด้วยวาจาที่สุภาพ
ข้อคิด
- การทำความดีไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเอง แต่ต้องฝึกฝนให้เป็นนิสัย
- คนที่ประพฤติดีจะรู้จักการควบคุมตัวเอง รู้จักการฝึกฝนจิตใจและพฤติกรรมให้เหมาะสม
- การฝึกตนเป็นวิธีหนึ่งในการพัฒนาให้มีคุณธรรมและจริยธรรมที่สูงขึ้น
สรุป
“ผู้ประพฤติดี ย่อมฝึกตน” เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ที่เน้นการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความดีงาม และทำให้ตนเองเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น