
“บัณฑิต ย่อมฝึกตน” มาจากพุทธศาสนภาษิตบทว่า อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา (ม. ม. ๑๓/๔๘๗. ขุ. ธ. ๒๕/๒๕. ขุ. เถร. ๒๖/๓๘๙.) หมายถึง คนที่เป็นบัณฑิต หรือผู้มีปัญญา ย่อมหมั่นฝึกฝนอบรมตนเองอยู่เสมอ ทั้งทางกาย วาจา และใจ เพื่อให้เกิดความเจริญงอกงามในชีวิต
ความหมายโดยละเอียด
- บัณฑิต: หมายถึง ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ สติปัญญา และคุณธรรม สามารถแยกแยะชั่วดี ประพฤติตนได้อย่างเหมาะสม
- ฝึกตน: หมายถึง การพัฒนาตนเอง ขัดเกลา ปรับปรุง แก้ไข ในทุกๆ ด้าน เพื่อให้ดียิ่งขึ้น
การฝึกตนของบัณฑิต
- กาย: ดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง มีสุขภาพดี เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ละเว้นอบายมุข
- วาจา: ฝึกฝนการพูดจาให้ไพเราะ สุภาพ มีเหตุผล รู้จักกาลเทศะ พูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่พูดโกหก ส่อเสียด นินทา
- ใจ: ฝึกฝนจิตใจให้สงบ เข้มแข็ง มีสติ รู้เท่าทันอารมณ์ เช่น การฝึกสมาธิ การเจริญปัญญา การปล่อยวาง
ประโยชน์ของการฝึกตน
- ทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้า: การฝึกตน ทำให้เกิดการพัฒนา ทั้งทางด้านความรู้ ความสามารถ สติปัญญา และคุณธรรม
- ทำให้มีความสุข: การฝึกตน ทำให้จิตใจสงบ ผ่องใส เป็นอิสระ ไม่ตกเป็นทาสของกิเลส
- เป็นแบบอย่างที่ดี: บัณฑิตที่หมั่นฝึกตน จะเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับคนรอบข้าง และสังคม
ตัวอย่าง
- บัณฑิต หมั่นศึกษาหาความรู้ เพิ่มเติมความสามารถ อยู่เสมอ ไม่หยุดนิ่ง
- บัณฑิต ระมัดระวังคำพูด ไม่พูดจาให้ร้าย หรือทำร้ายจิตใจผู้อื่น
- บัณฑิต ฝึกสมาธิ เจริญปัญญา เพื่อให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง มั่นคง
ข้อคิด
- คนที่มีปัญญาย่อมไม่หยิ่งในความรู้หรือความสามารถที่ตนมี แต่จะมุ่งมั่นพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
- การฝึกตนเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องความรู้ จริยธรรม และความอดทน
- บัณฑิตที่แท้จริงไม่ใช่แค่คนที่มีความรู้ แต่คือคนที่มีความประพฤติและจิตใจที่ดี
สรุป
“บัณฑิต ย่อมฝึกตน” เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ที่เน้นการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุถึงความสุข ความสำเร็จ และความเจริญงอกงามในชีวิต