
“มนุษย์ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด” มาจากพุทธศาสนภาษิตบทว่า อตฺตตฺถปญฺญา อสุจี มนุสฺสา (ขุ. สุ. ๒๕๑๓๓๙.) หมายถึง คนที่มุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น มักจะใช้วิธีการที่ไม่สุจริต หลอกลวง เอาเปรียบ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สะอาด ทั้งทางกาย วาจา ใจ
ความหมายโดยละเอียด
- เห็นแก่ประโยชน์ตน: หมายถึง การคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก โดยไม่สนใจว่าผู้อื่นจะเดือดร้อน เสียหาย หรือได้รับผลกระทบอย่างไร
- ไม่สะอาด: หมายถึง ไม่บริสุทธิ์ มีมลทิน แปดเปื้อน ทั้งทางกาย วาจา ใจ เช่น
- กาย: ทำร้ายผู้อื่น ลักขโมย
- วาจา: พูดโกหก พูดส่อเสียด ใส่ร้ายป้ายสี
- ใจ: คิดคด ริษยา อาฆาตพยาบาท
ผลกระทบของการเห็นแก่ประโยชน์ตน
- ทำให้เกิดความขัดแย้ง: การเห็นแก่ตัว มักนำไปสู่ความขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้ง ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ
- ทำลายความสัมพันธ์: คนที่เห็นแก่ตัว มักจะไม่ค่อยมีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย ทำให้สูญเสียมิตรภาพ ความรัก ความไว้วางใจ
- ทำให้จิตใจเศร้าหมอง: การเบียดเบียน เอาเปรียบผู้อื่น ทำให้จิตใจไม่สงบ ขุ่นมัว เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด และความวิตกกังวล
หลักธรรมที่เกี่ยวข้อง
- พรหมวิหาร ๔: เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นหลักธรรมที่สอนให้เรามีความรัก ความปรารถนาดี ต่อเพื่อนมนุษย์ และสรรพสัตว์
- สังคหวัตถุ ๔: ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตา เป็นหลักธรรมที่สอนให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
ข้อคิด:
- การเห็นแก่ตัวเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและขัดกับหลักคุณธรรม
- ความสะอาดในที่นี้หมายถึงความบริสุทธิ์ของจิตใจและความตั้งใจที่ดีต่อผู้อื่น
- คนที่มุ่งแต่ประโยชน์ของตนเองมักจะทำให้เกิดปัญหาแก่ส่วนรวมและเป็นที่ไม่พึงพอใจในสังคม
สรุป
การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น เป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่ควรปฏิบัติ เราควรฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เสียสละเพื่อให้สังคมและโลกน่าอยู่ยิ่งขึ้น