
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของหญิง”
พุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของหญิง” มาจากพระบาลีบทว่า มลิตฺถิยา ทุจฺจริตํ. (องฺ. อฏฺฐก. ๒๓/๑๙๘. ขุ. ธ. ๒๕/๔๗.) มีความหมายว่า การกระทำที่ไม่ดีหรือการประพฤติที่ผิดศีลธรรม เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงเสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียง
ความหมายโดยรวม
- ความประพฤติชั่ว: หมายถึง การกระทำที่ไม่ถูกต้องตามศีลธรรม จริยธรรม หรือกฎหมายบ้านเมือง เช่น การผิดประเวณี การพูดเท็จ การลักทรัพย์ เป็นต้น
- มลทิน: หมายถึง สิ่งที่ทำให้เกิดความสกปรก ความไม่บริสุทธิ์ หรือความเสื่อมเสีย
เมื่อนำมารวมกัน “ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของหญิง” จึงหมายถึง การที่ผู้หญิงกระทำความชั่ว จะทำให้ตนเองเป็นมลทิน คือ เสื่อมเสียเกียรติ ชื่อเสียง และคุณค่าในตัวเอง
ความหมายในเชิงเปรียบเทียบ
พุทธศาสนสุภาษิตนี้เป็นการเปรียบเทียบว่า ความประพฤติชั่วเป็นเหมือนมลทินที่เปรอะเปื้อน ทำให้ผู้หญิงดูไม่ดีในสายตาคนอื่น และยังเป็นการเตือนสติให้ผู้หญิงระมัดระวังในการกระทำของตนเอง ไม่ให้กระทำสิ่งที่ไม่ดีงาม
ข้อควรระวัง
แม้ว่าสุภาษิตนี้จะเน้นไปที่ผู้หญิง แต่จริงๆ แล้วการประพฤติชั่วก็เป็นมลทินของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย การกระทำที่ไม่ดีจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียและผลร้ายต่อตนเองทั้งสิ้น
สรุป
“ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของหญิง” เป็นพุทธศาสนสุภาษิตที่สอนให้ผู้หญิงรักษาความดีงามของตนเอง ไม่ให้กระทำความชั่ว เพราะจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล