
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“มนต์มีการไม่ท่องบ่น เป็นมลทิน”
พุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “มนต์มีการไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน” มาจากพระบาลีบทว่า อสชฺฌายมลา มนฺตา. (องฺ. อฏฺฐก. ๒๓/๑๙๘. ขุ. ธ. ๒๕/๔๗.) มีความหมายโดยนัยว่า การไม่ทบทวนหรือสาธยายมนต์ (ในที่นี้หมายถึงคำสอนหรือพระธรรม) อย่างสม่ำเสมอ ย่อมเป็นเหตุให้มนต์นั้นเสื่อมหรือเลือนหายไป เปรียบเสมือนเป็นมลทินที่ทำให้มนต์ไม่บริสุทธิ์
คำว่า “มนต์” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคาถาอาคมที่ใช้ในทางไสยศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า หรือพระธรรมคำสั่งสอนโดยทั่วไป การท่องบ่นหรือสาธยายจึงหมายถึงการศึกษาเล่าเรียน ทบทวน พิจารณาไตร่ตรองคำสอนเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและจดจำได้อย่างแม่นยำ
ความหมายโดยละเอียด:
- มนต์: ในบริบทนี้ หมายถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า พระธรรมวินัย หรือความรู้ต่างๆ
- การไม่ท่องบ่น: หมายถึงการไม่ศึกษาเล่าเรียน ไม่ทบทวน ไม่พิจารณาไตร่ตรองคำสอนเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ
- มลทิน: หมายถึงสิ่งสกปรก สิ่งที่ทำให้ไม่บริสุทธิ์ หรือสิ่งที่ทำให้เสื่อมเสีย ในที่นี้หมายถึงสิ่งที่ทำให้คำสอนเสื่อมหรือเลือนหายไปจากความทรงจำ
ความหมายโดยรวม:
ภาษิตนี้ต้องการสอนให้เห็นความสำคัญของการศึกษาเล่าเรียนและทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างสม่ำเสมอ เปรียบเสมือนการหมั่นทำความสะอาดสิ่งของ หากปล่อยปะละเลยไม่ดูแลรักษา สิ่งของนั้นย่อมสกปรกและเสื่อมโทรมไปในที่สุด เช่นเดียวกัน หากไม่ทบทวนคำสอนอย่างสม่ำเสมอ คำสอนนั้นก็จะเลือนหายไปจากความทรงจำ ไม่สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติธรรมได้อย่างถูกต้อง
ตัวอย่างเปรียบเทียบ:
- นักเรียนที่ไม่ทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ ย่อมลืมเนื้อหาที่เรียนไป ทำให้สอบได้คะแนนไม่ดี
- ช่างฝีมือที่ไม่ฝึกฝนทักษะอย่างสม่ำเสมอ ฝีมือก็จะตกต่ำลง
- ชาวนาที่ไม่ดูแลรักษาไร่นาอย่างสม่ำเสมอ พืชผลก็จะไม่งอกงาม
นอกจากนี้ ในพระสูตรเดียวกัน ยังมีมลทินอื่นๆ ที่ควรพิจารณาด้วย เช่น:
- เรือนมีความไม่ขยันหมั่นเพียรเป็นมลทิน: การไม่ขยันทำมาหากิน ย่อมนำมาซึ่งความยากจน
- ผิวพรรณมีความเกียจคร้านเป็นมลทิน: การไม่ออกกำลังกาย ไม่อาบน้ำชำระร่างกาย ทำให้ร่างกายสกปรกและสุขภาพไม่ดี
- ผู้รักษามีความประมาทเป็นมลทิน: ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษา หากประมาทเลินเล่อ ก็จะทำให้เกิดความเสียหายได้
- สตรีมีความประพฤติชั่วเป็นมลทิน: การประพฤติผิดศีลธรรม ย่อมนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย
- ผู้ให้มีความตระหนี่เป็นมลทิน: การไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ย่อมทำให้ขาดมิตรและไม่ได้รับความช่วยเหลือในยามยาก
- บาปอกุศลธรรมเป็นมลทินทั้งในโลกนี้และโลกหน้า: การทำบาปอกุศล ย่อมนำมาซึ่งความทุกข์ทั้งในปัจจุบันและในภพหน้า
- มลทินที่ยิ่งกว่ามลทินนั้นคืออวิชชา: ความไม่รู้จริงในอริยสัจ 4 เป็นมูลเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง
การศึกษาและพิจารณาพุทธศาสนสุภาษิตเหล่านี้ ช่วยให้เราเข้าใจหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างลึกซึ้ง และนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง เพื่อความสุขและความเจริญทั้งในโลกนี้และโลกหน้า