เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

โลกอันจิตย่อมนำไป
โลกอันจิตย่อมนำไป

ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“โลกอันจิตย่อมนำไป”

พุทธศาสนสุภาษิต “โลกอันจิตย่อมนำไป” มาจากพระบาลีบทว่า จิตฺเตน นียตี โลโก (สํ. ส. ๑๕/๕๔.) แปลได้ว่า “โลกคือหมู่สัตว์ อันจิตย่อมนำไป”

ความหมายโดยสรุปของพุทธศาสนสุภาษิตนี้คือ ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเรา ล้วนถูกขับเคลื่อนและกำหนดโดยจิตใจของเราเอง

อธิบายขยายความได้ดังนี้:

  • โลก (โลโก): ในที่นี้หมายถึง หมู่สัตว์ หรือ มนุษย์ รวมถึง วิถีชีวิต ประสบการณ์ และความเป็นไปทั้งปวงของมนุษย์ ไม่ได้หมายถึงโลกทางภูมิศาสตร์
  • จิต (จิตฺเตน): หมายถึง ความคิด ความรู้สึก อารมณ์ เจตจำนง ทัศนคติ ความเชื่อ ทั้งหมดที่อยู่ในใจ
  • นำไป (นียตี): หมายถึง ชักนำ ชักจูง ขับเคลื่อน กำหนด บงการ

ดังนั้น พุทธศาสนสุภาษิตนี้จึงสอนว่า:

  1. จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว: ความคิด ความรู้สึก และทัศนคติของเรา เป็นตัวกำหนดการกระทำ คำพูด และวิถีชีวิตของเรา
  2. สุขทุกข์อยู่ที่ใจ: ความสุขหรือความทุกข์ในชีวิต ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับมุมมองและการตีความของจิตใจเป็นสำคัญ
  3. ฝึกจิต ชีวิตเปลี่ยน: หากเราฝึกฝนจิตใจให้คิดดี คิดบวก มองโลกในแง่ดี มีสติ รู้เท่าทันอารมณ์ ชีวิตของเราก็จะดีขึ้น ประสบความสำเร็จและมีความสุขมากขึ้น
  4. จิตเป็นเหตุแห่งกรรม: ความคิดเป็นต้นทางของการกระทำ และการกระทำเป็นเหตุแห่งผล (กรรม) ดังนั้น หากเราคิดดี ทำดี ผลที่ตามมาย่อมดีตามไปด้วย

ตัวอย่างประกอบ:

  • คนที่มีจิตใจคิดร้าย อิจฉาริษยา มักจะนำพาตนเองไปสู่ความเดือดร้อน และมีแต่ความทุกข์
  • คนที่มีจิตใจเมตตา กรุณา มักจะมีความสุข และเป็นที่รักของผู้อื่น
  • คนที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มุ่งมั่นทำงาน ก็ย่อมประสบความสำเร็จในชีวิต
  • คนที่หมั่นฝึกสมาธิ เจริญสติ ก็ย่อมมีจิตใจที่สงบ มั่นคง และมีความสุข

สรุป:

“โลกอันจิตย่อมนำไป” เป็นคำสอนที่เตือนให้เราตระหนักถึงพลังอำนาจของจิตใจ และให้ความสำคัญกับการฝึกฝนจิตใจ เพราะจิตใจที่ดีงาม จะนำพาชีวิตไปสู่ความสุข ความเจริญ และความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....