เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา

ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา”

พุทธศาสนสุภาษิต “สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา” มาจากพระบาลีบทว่า ยงฺกิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมํ (สํ. มหา. ๑๙/๕๓๑) เป็นหลักธรรมคำสอนที่สำคัญมากในพระพุทธศาสนา แสดงถึงความจริงของธรรมชาติที่เรียกว่า อนิจจัง หรือความไม่เที่ยง ความไม่คงทนถาวรของสรรพสิ่ง

เรามาขยายความหมายของสุภาษิตนี้กัน:

  • สิ่งใดสิ่งหนึ่ง: หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ไม่ว่าจะเป็นรูปธรรม (สิ่งที่จับต้องได้ เช่น ต้นไม้ ภูเขา ร่างกาย) หรือนามธรรม (สิ่งที่จับต้องไม่ได้ เช่น ความคิด ความรู้สึก อารมณ์) รวมถึงสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต
  • มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา: หมายถึง ทุกสิ่งล้วนมีจุดเริ่มต้น มีการก่อตัวขึ้น มีการเจริญเติบโต หรือมีการปรากฏขึ้น ไม่ได้อยู่คงที่ตลอดไป
  • สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา: หมายถึง เมื่อมีเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องมีการเสื่อมสลาย มีการเปลี่ยนแปลงไป มีการดับไปในที่สุด ไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดกาล

ดังนั้น สุภาษิตนี้จึงสอนให้เราเข้าใจว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง (ความไม่เที่ยง) ทุกขัง (ความทนอยู่ไม่ได้) และอนัตตา (ความไม่มีตัวตนที่แท้จริง)

ความหมายที่ลึกซึ้งและนัยยะสำคัญ:

  • ความไม่ยึดติด: เมื่อเราเข้าใจความจริงว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง เราจะไม่ยึดติดในสิ่งต่างๆ มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สมบัติ ร่างกาย หรือแม้แต่ความสุข เพราะเรารู้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ยั่งยืน และอาจเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกเมื่อ การไม่ยึดติดจะช่วยลดความทุกข์ที่เกิดจากการสูญเสียหรือการเปลี่ยนแปลง
  • การปล่อยวาง: การยอมรับความจริงที่ว่าทุกสิ่งต้องดับไป จะช่วยให้เราปล่อยวางความเศร้าโศก ความเสียใจ เมื่อต้องเผชิญกับการสูญเสีย เพราะเราเข้าใจว่ามันเป็นธรรมดาของโลก
  • การใช้ชีวิตอย่างมีสติ: การตระหนักถึงความไม่เที่ยงของชีวิต จะช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท และทำในสิ่งที่ดีงาม เพราะเรารู้ว่าเวลาชีวิตมีจำกัด
  • การมุ่งสู่ความพ้นทุกข์: ในทางปฏิบัติธรรม การพิจารณาความไม่เที่ยงเป็นเครื่องมือสำคัญในการดับกิเลส เพราะเมื่อเราเห็นความจริงว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง เราจะไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดๆ และสามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ได้

ตัวอย่างในชีวิตประจำวัน:

  • ร่างกาย: ร่างกายของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ และตาย เป็นไปตามธรรมชาติ
  • ความรู้สึก: ความรู้สึกสุข ทุกข์ รัก โกรธ ก็เกิดขึ้นและดับไป ไม่คงอยู่ถาวร
  • สิ่งของ: สิ่งของต่างๆ เช่น รถยนต์ บ้าน หรือเสื้อผ้า ก็มีการเสื่อมสภาพและพังไปในที่สุด
  • สถานการณ์: สถานการณ์ต่างๆ ในชีวิต เช่น ความสำเร็จ ความล้มเหลว ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

โดยสรุปแล้ว พุทธศาสนสุภาษิตนี้สอนให้เรามองโลกตามความเป็นจริง เข้าใจธรรมชาติของสรรพสิ่ง และใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท เพื่อที่จะได้ไม่ทุกข์เพราะความยึดติดในสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....