
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต “ขันติคือความอดทน เป็นตปะอย่างยิ่ง”
พุทธศาสนสุภาษิต “ขันติ คือ ความอดทน เป็นตปะอย่างยิ่ง” มาจากพระบาลีบทว่า ขนฺติ ปรมํ ตโป ตีติกฺขา. (ที. มหา. ๑๐/๕๗. ขุ. ธ. ๒๕/๔๐.) มีความหมายว่า ความอดทนเป็นตบะ (เครื่องเผาผลาญกิเลส) อย่างยิ่ง
อธิบายขยายความ:
- ขันติ (ขัน-ติ): หมายถึง ความอดทน อดกลั้น ความทนทานต่อสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์และความรู้สึก ไม่โกรธง่าย ไม่หวั่นไหวต่อคำพูดหรือการกระทำที่ไม่น่าพอใจ สามารถทนต่อความยากลำบาก ความเจ็บปวด หรือความทุกข์ต่างๆ ได้
- ตปะ (ตะ-ปะ): หมายถึง ความเพียร เครื่องแผดเผา เครื่องทรมาน ในทางพุทธศาสนาหมายถึงการบำเพ็ญเพียรเพื่อกำจัดกิเลส ความพยายามที่จะขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์
- ปรมัง (ปะ-ระ-มัง): หมายถึง อย่างยิ่ง ยอดเยี่ยม ที่สุด
ดังนั้น “ขันติ คือ ความอดทน เป็น ตปะอย่างยิ่ง” จึงหมายความว่า:
- ความอดทนเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการกำจัดกิเลส: การฝึกฝนความอดทนจะช่วยเผาผลาญกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้เบาบางลง นำไปสู่ความสงบสุขและความหลุดพ้น
- ความอดทนต้องอาศัยความเพียรพยายามอย่างสูง: การอดทนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยการฝึกฝน ความตั้งใจ และความเพียรพยายามอย่างมาก เปรียบเสมือนการบำเพ็ญตบะ
- ความอดทนนำไปสู่ความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม: ผู้ที่มีความอดทนจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปได้ ทั้งในเรื่องการงาน การเรียน การดำเนินชีวิต และการปฏิบัติธรรม
อธิบายเพิ่มเติม:
พระพุทธเจ้าทรงยกย่องความอดทนว่าเป็นคุณธรรมที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะความอดทนช่วยให้เรา:
- ควบคุมอารมณ์ได้: ไม่ปล่อยให้ความโกรธ ความโลภ ความหลง ครอบงำจิตใจ
- เผชิญกับความทุกข์ได้: สามารถทนต่อความยากลำบาก ความเจ็บปวด และความผิดหวังได้โดยไม่ท้อแท้
- พัฒนาตนเองได้: ความอดทนเป็นพื้นฐานของความสำเร็จในทุกๆ ด้าน
- อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสันติ: การรู้จักอดทนอดกลั้นต่อผู้อื่น ช่วยลดความขัดแย้ง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
สรุป:
“ขันติ คือ ความอดทน เป็นตปะอย่างยิ่ง” เป็นพุทธศาสนสุภาษิตที่สอนให้เห็นถึงความสำคัญของความอดทน ว่าเป็นคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ เป็นเครื่องเผาผลาญกิเลส และเป็นหนทางไปสู่ความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม การฝึกฝนความอดทนจึงเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน