เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ญาติมิตรและสหาย ย่อมหลีกเลี่ยงคนมักโกรธ

ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต “ญาติมิตรและสหาย ย่อมหลีกเลี่ยงคนมักโกรธ”

พุทธศาสนสุภาษิต “ญาติมิตรและสหาย ย่อมหลีกเลี่ยงคนมักโกรธ” มาจากพระบาลีบทว่า ญาติมิตฺตา สุหชฺชา จ ปริวชฺเชนฺติ โกธนํ. (องฺ. สตฺตก. ๒๓/๙๙.) มีความหมายตรงตัวว่า คนที่มักโกรธเป็นประจำ จะถูกเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง และคนรอบข้างตีตัวออกห่าง ไม่อยากคบหาด้วย

อธิบายขยายความได้ดังนี้:

  • “ญาติมิตรและสหาย” หมายถึง คนที่เรารู้จักคุ้นเคย มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทั้งที่เป็นญาติทางสายเลือด เพื่อนฝูง คนรู้จัก หรือคนใกล้ชิด
  • “ย่อมหลีกเลี่ยง” หมายถึง การพยายามตีตัวออกห่าง ไม่เข้าใกล้ ไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย
  • “คนมักโกรธ” หมายถึง คนที่มีอารมณ์โกรธเป็นประจำ มักแสดงออกถึงความโกรธอย่างรุนแรง ขาดการควบคุมอารมณ์ มักหงุดหงิด ฉุนเฉียว และโมโหง่าย

เหตุผลที่ญาติมิตรและสหายหลีกเลี่ยงคนมักโกรธ นั้นมีหลายประการ ดังนี้:

  1. ความอึดอัดและไม่สบายใจ: การอยู่ใกล้คนขี้โมโห ขี้หงุดหงิด สร้างความรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ และเครียด เพราะต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลา กลัวว่าจะไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจ
  2. กลัวการถูกทำร้าย: คนมักโกรธมักควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ อาจพลั้งเผลอพูดจาทำร้ายจิตใจ หรือรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้ ทำให้คนรอบข้างรู้สึกหวาดกลัวและไม่ปลอดภัย
  3. บรรยากาศที่เป็นพิษ: คนขี้โกรธมักสร้างบรรยากาศที่ไม่ดี น่าอึดอัดและตึงเครียด ทำให้คนที่อยู่ใกล้พลอยอารมณ์เสียและไม่มีความสุขไปด้วย
  4. การทำลายความสัมพันธ์: อารมณ์โกรธสามารถทำลายความสัมพันธ์ที่ดีได้ การแสดงอารมณ์โกรธบ่อยๆ พูดจาไม่ดี หรือทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยๆ จะทำให้ความสัมพันธ์ค่อยๆ เสื่อมลง และห่างเหินกันไปในที่สุด
  5. ความเหนื่อยหน่าย: การต้องคอยรับมือกับอารมณ์ของคนขี้โมโหเป็นสิ่งที่เหนื่อยหน่ายทั้งกายและใจ คนรอบข้างจึงเลือกที่จะถอยห่างเพื่อรักษาความสงบสุขในชีวิตของตัวเอง

ดังนั้น สุภาษิตบทนี้จึงเป็นคำเตือนใจให้เรารู้จักควบคุมอารมณ์โกรธ ไม่ปล่อยให้ความโกรธครอบงำ เพราะความโกรธไม่ได้ส่งผลเสียต่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วย หากเรารู้จักฝึกฝนสติ เจริญเมตตา และมีจิตใจที่อ่อนโยน คนรอบข้างก็จะอยากอยู่ใกล้และมีความสุขเมื่อได้อยู่ร่วมกับเรา


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....