
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต “คนมักโกรธ ย่อมมีผิวพรรณเศร้าหมอง”
พุทธศาสนสุภาษิต “คนมักโกรธ ย่อมมีผิวพรรณเศร้าหมอง” มาจากพระบาลีบทว่า โกธโน ทุพฺพณฺโณ โหติ. (องฺ. สตฺตก. ๒๓/๙๘.) หมายความว่า คนที่โกรธบ่อย ๆ หรือปล่อยให้ความโกรธครอบงำจิตใจเป็นประจำ มักจะมีผิวพรรณที่ไม่ผ่องใส หม่นหมอง ไม่สดชื่น ดูทรุดโทรม
อธิบายขยายความ:
- คนมักโกรธ: คนที่มักมีอารมณ์โกรธเกิดขึ้นบ่อย ๆ ควบคุมอารมณ์โกรธได้ยาก
- ย่อมมีผิวพรรณเศร้าหมอง: จะมีใบหน้าและผิวพรรณที่ไม่สดใส ดูหม่นหมอง ไม่เปล่งปลั่ง
ความหมายเชิงลึกและเหตุผล:
สุภาษิตนี้อธิบายความเชื่อมโยงระหว่างสภาวะจิตใจกับร่างกาย โดยมีเหตุผลสนับสนุนดังนี้:
- ผลกระทบทางกายภาพของความโกรธ:
- เมื่อโกรธ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียด เช่น อะดรีนาลีนและคอร์ติซอล ซึ่งส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย
- ฮอร์โมนเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดหดตัว เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้ผิวพรรณซีดเซียวหรือหมองคล้ำ
- ความโกรธยังทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าเกร็งตัว ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย
- การนอนไม่หลับเพราะความเครียดหรือความโกรธก็ส่งผลเสียต่อผิวพรรณ
- ผลกระทบทางจิตใจของความโกรธ:
- ความโกรธเป็นอารมณ์ด้านลบ ทำให้จิตใจไม่ผ่องใส
- คนที่โกรธบ่อยมักมีความเครียดสะสม ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมและผิวพรรณ
- จิตใจที่เศร้าหมองสะท้อนออกมาทางสีหน้าและแววตา ทำให้ดูไม่สดชื่น
- การสะท้อนจากภายในสู่ภายนอก:
- พุทธศาสนาสอนว่า “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” หมายถึง จิตใจเป็นตัวกำหนดสภาวะทางร่างกาย
- ดังนั้น เมื่อจิตใจเต็มไปด้วยความโกรธ ร่างกายก็จะแสดงออกมาในทางที่ไม่ดี รวมถึงผิวพรรณด้วย

ข้อคิดและแนวทางปฏิบัติ:
- ฝึกควบคุมอารมณ์: เรียนรู้ที่จะจัดการกับความโกรธอย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยให้ความโกรธครอบงำ
- ฝึกสติและสมาธิ: ช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต
- เจริญเมตตา: ฝึกจิตให้มีเมตตา ให้อภัย จะช่วยลดความโกรธและทำให้จิตใจผ่องใส
- ดูแลสุขภาพ: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผิวพรรณสดใส
สรุป:
“คนมักโกรธ ย่อมมีผิวพรรณเศร้าหมอง” เป็นสุภาษิตที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างจิตใจและร่างกาย ความโกรธไม่เพียงแต่ทำร้ายจิตใจ แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพและรูปลักษณ์ภายนอกอีกด้วย ดังนั้น เราจึงควรฝึกฝนที่จะควบคุมอารมณ์ เจริญเมตตา และดูแลสุขภาพ เพื่อความสุขทั้งกายและใจ