
พึงรักษาความดีของตนไว้ ดังเกลือรักษาความเค็ม
พุทธศาสนสุภาษิต “พึงรักษาความดีของตนไว้ ดังเกลือรักษาความเค็ม” แปลมาจากบาลีว่า รกฺเขยฺย อตฺตโน สาธุํ ลวณํ โลณตํ ยถา (ส.ส.) เป็นสุภาษิตที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (สา ปุสฺสเทโว) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระองค์ที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระนิพนธ์ไว้ หมายถึง:
ควรตั้งใจรักษาคุณความดีที่ตนมีอยู่ให้คงอยู่เสมอ เปรียบเสมือนเกลือที่มีคุณสมบัติคงความเค็มไว้ตลอด ไม่เปลี่ยนแปลง แม้เวลาผ่านไป
ความหมาย
สุภาษิตนี้สอนให้เรา รักษาคุณความดีในตัวเราไว้ให้มั่นคง เหมือนกับเกลือที่รักษาความเค็มไว้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใด เกลือก็ยังคงความเค็ม เช่นเดียวกับคนเรา ควรยึดมั่นในความดี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด หรือเผชิญกับสิ่งยั่วยุใด ๆ ก็ไม่ควรหวั่นไหว
เหตุผลที่ต้องรักษาความดี
- ความดีเป็นสิ่งมีค่า: ความดี เป็นสมบัติอันล้ำค่าเป็นสิ่งที่ควรหวงแหนและรักษาไว้
- ความดีเป็นเกราะคุ้มครอง: ความดี เปรียบเสมือนเกราะคุ้มครองภัย ช่วยให้เราปลอดภัย ทั้งทางกาย และทางใจ
- ความดีนำมาซึ่งความสุข: การทำความดีทำให้จิตใจสงบเบิกบานมีความสุข
- ความดีเป็นที่ยกย่อง: คนดีเป็นที่รักที่เคารพของคนทั่วไป
วิธีรักษาความดี
- ตั้งมั่นในความดี: มีจิตใจแน่วแน่ มั่นคงในความดี ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งยั่วยุ
- ฝึกฝนตนเอง: หมั่นฝึกฝนอบรมตนเอง ให้มีคุณธรรม จริยธรรม
- ระมัดระวังในการกระทำ: มีสติรู้ตัวในการกระทำ ไม่ประมาท
- คบคนดี: คบหาสมาคมกับคนดี เพื่อเป็นแบบอย่างและเป็นแรงบันดาลใจ
สรุป
พุทธศาสนสุภาษิต “พึงรักษาความดีของตนไว้ ดังเกลือรักษาความเค็ม” สอนให้เราเป็นคนดี มั่นคงในความดีและรักษาความดีไว้ ให้เหมือนกับเกลือที่รักษาความเค็ม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ไม่เปลี่ยนแปลง