เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ไม่ควรพร่าประโยชน์ตน เพราะประโยชน์ผู้อื่นแม้มาก
ไม่ควรพร่าประโยชน์ตน เพราะประโยชน์ผู้อื่นแม้มาก

พุทธศาสนสุภาษิตบทว่า “ไม่ควรพร่าประโยชน์ตน เพราะประโยชน์ผู้อื่นแม้มาก” มาจากพระบาลีบทว่า อตฺตทตฺถํ ปรตฺเถน พหุนาปิ น หาปเย. (ขุ. ธ. ๒๕/๓๗.) มีใจความสำคัญอยู่ที่การรักษาสมดุลระหว่างการช่วยเหลือผู้อื่นและการดูแลตนเอง

“ไม่ควรพร่าประโยชน์ตน เพราะประโยชน์ผู้อื่นแม้มาก” หมายถึง บุคคลไม่ควรเสียสละประโยชน์ที่สำคัญของตนเองหรือสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิต เพียงเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น แม้ว่าประโยชน์ของผู้อื่นนั้นจะมากเพียงใด เพราะการดูแลตนเองและรักษาความสมดุลในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเราดูแลตนเองได้ดี เราจึงจะมีศักยภาพช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างยั่งยืนและเหมาะสม

ความหมายโดยละเอียด

  • ไม่ควรพร่าประโยชน์ตน: หมายถึง ไม่ควรทำให้ตนเองเดือดร้อน เสียหาย หรือเสียประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สิน หรือเวลา เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
  • เพราะประโยชน์ผู้อื่นแม้มาก: แม้การช่วยเหลือผู้อื่นนั้นจะนำมาซึ่งประโยชน์มากมาย แต่ก็ไม่ควรทำจนตนเองเดือดร้อน
  • การเสียสละมีขอบเขต: การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความสมเหตุสมผล และไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อนเกินไป
  • รักษาสมดุล: ต้องรู้จักรักษาสมดุลระหว่างการช่วยเหลือผู้อื่น และการดูแลตนเอง ไม่ควรเสียสละตนเองมากเกินไป จนทำให้ตนเองลำบาก

ตัวอย่างสถานการณ์

  • การให้ยืมเงินจนตัวเองเดือดร้อน
  • การทำงานหนักเกินไปเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน จนส่งผลเสียต่อสุขภาพของตนเอง
  • การเสียสละเวลาส่วนตัวทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น จนไม่มีเวลาพักผ่อน หรือทำในสิ่งที่ตนเองชอบ

ข้อคิด

  • การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องรู้จักประมาณตน และไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน
  • การดูแลตนเองให้ดีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเราไม่ดูแลตนเอง ก็จะไม่สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างเต็มที่
  • ควรมีสติปัญญาในการพิจารณาก่อนตัดสินใจช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น

สรุป

พุทธศาสนสุภาษิตบทนี้ สอนให้เรารู้จัก “ให้” อย่างมีสติ และ “รับ” อย่างมีความพอดี การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง แต่ก็ต้องรู้จักดูแลตนเอง เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิต และ ช่วยเหลือผู้อื่น ต่อไปได้อย่างยั่งยืน


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....