
“จงพิจารณาตนด้วยตนเอง” มาจากพุทธศาสนสุภาษิตบทว่า ปฏิมํเสตมตฺตนา (ขุ. ธ. ๒๕/๖๖.) เป็นคำที่คล้ายกับ “จงเตือนตนด้วยตนเอง“ แต่มีความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า โดยเน้นที่การ ใคร่ครวญ วิเคราะห์ และไตร่ตรอง ถึงความคิด คำพูด และการกระทำของตนเอง อย่างรอบด้าน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาตนเองอย่างแท้จริง
“จงพิจารณาตนด้วยตนเอง” หมายถึง การใคร่ครวญหรือสำรวจความคิด การกระทำ และพฤติกรรมของตนเองอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อเรียนรู้และเข้าใจตนเอง รวมถึงการปรับปรุงข้อบกพร่องและพัฒนาความดีงามในตน เป็นแนวทางที่ส่งเสริมความมีสติปัญญา ความรับผิดชอบต่อตนเอง และความสามารถในการแก้ไขปัญหาชีวิตโดยไม่พึ่งพาผู้อื่นเป็นหลัก.
ความหมายโดยละเอียด:
- การสังเกตตนเอง: ให้ความสำคัญกับการสังเกต ความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของตนเอง อย่างละเอียดทั้งในด้านดีและด้านที่ควรปรับปรุง
- การวิเคราะห์: เมื่อพบข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนของตนเอง ให้วิเคราะห์หาสาเหตุและวิธีแก้ไขอย่างมีเหตุผล
- การใคร่ครวญ: ใช้สติปัญญาไตร่ตรองถึงผลกระทบของความคิดคำพูดและการกระทำของตนเองที่มีต่อตนเองและผู้อื่น
- การเรียนรู้จากประสบการณ์: นำบทเรียนจากความผิดพลาดในอดีตมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น
- การตั้งเป้าหมาย: กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาตนเองทั้งในด้านความรู้ทักษะและคุณธรรม
ประโยชน์ของการพิจารณาตนด้วยตนเอง:
- เข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง: ทำให้เรารู้จักและเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน
- พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง: นำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
- แก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ: เมื่อเข้าใจสาเหตุของปัญหาย่อมสามารถหาวิธีแก้ไขได้อย่างตรงจุด
- สร้างสัมพันธภาพที่ดี: การรู้จักและเข้าใจตนเองช่วยให้เข้าใจผู้อื่นและสร้างสัมพันธภาพที่ดี กับคนรอบข้าง
- มีชีวิตที่สมดุล: นำไปสู่การดำเนินชีวิตอย่างมีสติมีเหตุผลและมีความสุข
สรุป:
“จงพิจารณาตนด้วยตนเอง” เป็นการยกระดับจากการ “เตือนตน” ไปสู่การ”พิจารณาตน” อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้เกิดปัญญาและความเข้าใจในตนเองนำไปสู่การพัฒนาตนเองอย่างแท้จริงและมีชีวิตที่มีคุณค่า