
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“อัชฌาสัยที่ทนไม่ได้เพราะกรุณา เป็นลักษณะของมหาบุรุษ”
พุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “อัชฌาสัยที่ทนไม่ได้เพราะกรุณา เป็นลักษณะของมหาบุรุษ” มาจากพระบาลีบทว่า มหาปุริสภาวสฺส ลกฺขณํ กรุณาสโห. (ว.ว.) เป็นสุภาษิตที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๐ ทรงนิพนธ์ไว้ เป็นคำสอนที่แสดงถึงคุณลักษณะพิเศษของ “มหาบุรุษ” ซึ่งในบริบททางพระพุทธศาสนาหมายถึง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระมหาโพธิสัตว์ ผู้มีจิตใจที่เปี่ยมด้วย “กรุณา” อย่างหาที่สุดมิได้ ความหมายโดยละเอียดสามารถอธิบายได้ดังนี้
- อัชฌาสัย (อัชฌาสย): หมายถึง ความตั้งใจ ความปรารถนา ความโน้มเอียงของจิตใจ หรืออุปนิสัยใจคอ ในที่นี้หมายถึง ความตั้งใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์
- ทนไม่ได้เพราะกรุณา: หมายถึง การที่มหาบุรุษไม่สามารถทนเห็นความทุกข์ของผู้อื่นได้ จิตใจของท่านมีความรู้สึกสงสาร เห็นใจ และปรารถนาที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์นั้นอย่างแรงกล้า ความกรุณานี้เองเป็นแรงผลักดันให้ท่านกระทำสิ่งต่างๆ เพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น
- ลักษณะของมหาบุรุษ: การที่จิตใจมีความกรุณาอย่างแรงกล้า จนทนเห็นความทุกข์ของผู้อื่นไม่ได้ ถือเป็นคุณลักษณะที่สำคัญของมหาบุรุษ แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของจิตใจ ความเสียสละ และความตั้งใจจริงที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์
ความหมายโดยละเอียดและขยายความ:
สุภาษิตนี้เน้นย้ำถึง “มหากรุณา” ซึ่งเป็นคุณธรรมพิเศษของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ มหากรุณาคือความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ ไร้ขอบเขต และไม่มีเงื่อนไข เป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง แม้จะต้องเสียสละความสุขส่วนตน หรือต้องเผชิญกับความยากลำบากเพียงใดก็ตาม
การที่มหาบุรุษ “ทนไม่ได้เพราะกรุณา” แสดงให้เห็นถึง:
- ความไวต่อความทุกข์ของผู้อื่น: มหาบุรุษมีความรู้สึกไวต่อความทุกข์ของผู้อื่น แม้เป็นเพียงความทุกข์เล็กน้อย ท่านก็รับรู้และเห็นใจ
- ความเห็นอกเห็นใจอย่างลึกซึ้ง: มหาบุรุษมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง เข้าใจถึงความทุกข์และความยากลำบากของผู้อื่นอย่างแท้จริง
- ความเสียสละอย่างไม่มีเงื่อนไข: มหาบุรุษพร้อมที่จะเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ
- ความเพียรพยายามอย่างไม่ย่อท้อ: มหาบุรุษมีความเพียรพยายามอย่างไม่ย่อท้อในการช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ แม้จะต้องใช้เวลาอันยาวนาน หรือต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ท่านก็ไม่ท้อถอย
ตัวอย่างในพระพุทธประวัติ:
- เมื่อพระโพธิสัตว์ทรงเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช ทำให้พระองค์เกิดความสังเวชในความทุกข์ของมนุษย์ และตัดสินใจออกบวชเพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์
- เมื่อพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงใช้เวลาตลอดพระชนม์ชีพในการสั่งสอนธรรมะ เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์
ความแตกต่างจากความสงสารทั่วไป:
ความสงสารทั่วไปอาจเกิดจากความรู้สึกเห็นใจผู้อื่นเมื่อประสบกับความทุกข์ แต่ความกรุณาของมหาบุรุษนั้นลึกซึ้งและยิ่งใหญ่กว่า เป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์อย่างแท้จริง
สรุป:
สุภาษิต “อัชฌาสัยที่ทนไม่ได้เพราะกรุณา เป็นลักษณะของมหาบุรุษ” สอนให้เราเห็นถึงคุณธรรมอันประเสริฐของมหาบุรุษ คือ “มหากรุณา” ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ท่านกระทำสิ่งต่างๆ เพื่อประโยชน์สุขของสรรพสัตว์ การศึกษาและน้อมนำคุณธรรมนี้มาปฏิบัติ จะช่วยพัฒนาจิตใจของเราให้มีความเมตตา กรุณา และช่วยเหลือผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
การศึกษาและทำความเข้าใจในหลักธรรมเหล่านี้ จะช่วยให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างมีสติและมีความสุขมากยิ่งขึ้น