เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต "หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี"
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต “หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี”

ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี”

พุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี” หรือในภาษาบาลีคือ หิริโอตฺตปฺปิยญฺเญว โลกํ ปาเลติ สาธุกํ. (ว.ว.) เป็นสุภาษิตที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๑๐ ทรงนิพนธ์ไว้ เป็นคำสอนที่สำคัญมากในพระพุทธศาสนา เพราะแสดงให้เห็นถึงคุณธรรมสองประการที่ช่วยให้สังคมมนุษย์อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขและเป็นระเบียบเรียบร้อย ความหมายโดยละเอียดสามารถอธิบายได้ดังนี้

  • หิริ (หิ-ริ): หมายถึง ความละอายแก่ใจต่อการทำความชั่ว ความละอายต่อบาป ความละอายที่จะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ไม่สมควร ทั้งต่อหน้าและลับหลังผู้อื่น หิริเกิดจากความเคารพตัวเอง เคารพในคุณงามความดี และกลัวว่าการทำชั่วจะทำให้ตนเองเสื่อมเสีย
  • โอตตัปปะ (โอ-ตะ-ปะ): หมายถึง ความเกรงกลัวต่อผลของบาป ความกลัวต่อความชั่ว กลัวผลกรรมที่จะตามมาจากการกระทำที่ไม่ดี โอตตัปปะเกิดจากความเชื่อในกฎแห่งกรรม เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และกลัวว่าการทำชั่วจะนำมาซึ่งความทุกข์ ความเดือดร้อน ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
  • การรักษาโลก: การที่โลกหรือสังคมอยู่ได้อย่างสงบสุข ไม่วุ่นวาย ไม่มีการเบียดเบียนกัน เป็นผลมาจากการที่คนในสังคมมีหิริและโอตตัปปะ เมื่อคนมีความละอายที่จะทำชั่ว และกลัวผลกรรมที่จะตามมา ก็จะยับยั้งชั่งใจ ไม่ทำความชั่ว ทำให้สังคมมีความสงบสุข
  • ธรรมะคุ้มครองโลก: หิริและโอตตัปปะได้รับการยกย่องว่าเป็น “ธรรมคุ้มครองโลก” หรือ “โลกบาลธรรม” เพราะเป็นธรรมะที่ช่วยรักษาความสงบสุขและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม หากขาดธรรมะสองประการนี้ โลกก็จะวุ่นวาย เกิดความขัดแย้ง และความทุกข์

ความหมายโดยเปรียบเทียบ:

หิริเปรียบเสมือนรั้วที่อยู่ภายในใจ คอยกั้นไม่ให้เราทำความชั่ว ส่วนโอตตัปปะเปรียบเสมือนยามที่คอยเฝ้าระวังอยู่ภายนอก คอยเตือนให้เรากลัวผลกรรมที่จะตามมา เมื่อมีทั้งรั้วและยาม โอกาสที่เราจะทำความชั่วก็จะน้อยลง

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน:

  • การทำงาน: พนักงานที่มีหิริโอตตัปปะ จะไม่โกงบริษัท ไม่เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน และทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต
  • การใช้ชีวิต: คนที่มีหิริโอตตัปปะ จะไม่ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม หรือผิดต่อจารีตประเพณี
  • ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล: การมีหิริโอตตัปปะ จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นไปด้วยดี ไม่มีการเบียดเบียนหรือเอารัดเอาเปรียบกัน
  • การพัฒนาตนเอง: การมีหิริโอตตัปปะ จะช่วยให้เราพัฒนาตนเองไปในทางที่ดี เพราะเราจะละอายที่จะทำความชั่ว และกลัวผลกรรมที่จะตามมา

คำสอนที่เกี่ยวข้อง:

ในพระพุทธศาสนามีคำสอนมากมายที่เกี่ยวข้องกับหิริและโอตตัปปะ เช่น

  • ศีล 5: เป็นหลักปฏิบัติพื้นฐานสำหรับพุทธศาสนิกชน ซึ่งสอดคล้องกับหิริและโอตตัปปะ เพราะการรักษาศีลคือการละเว้นจากการทำความชั่ว
  • กรรม: กฎแห่งกรรมสอนว่า การกระทำใดๆ ย่อมมีผลของการกระทำนั้นๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานของโอตตัปปะ

สรุป: สุภาษิต “หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี” สอนให้เราเห็นความสำคัญของหิริและโอตตัปปะ ซึ่งเป็นคุณธรรมที่สำคัญในการสร้างสังคมที่สงบสุขและน่าอยู่ การมีหิริและโอตตัปปะในใจ จะช่วยให้เรายับยั้งชั่งใจ ไม่ทำความชั่ว และดำเนินชีวิตไปในทางที่ดี

การศึกษาและทำความเข้าใจในหลักธรรมเหล่านี้ จะช่วยให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างมีสติและมีความสุขมากยิ่งขึ้น


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....