เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ภายหลัง เมื่อความโกรธหายแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้

ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต “ภายหลัง เมื่อความโกรธหายแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้”

พุทธศาสนสุภาษิต “ภายหลัง เมื่อความโกรธหายแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้” มาจากพระบาลีบทว่า ปจฺฉา โส วิคเต โกเธ อคฺคิทฑฺโฒว ตปฺปติ. (องฺ. สตฺตก. ๒๓/๙๙.) มีความหมายว่า หลังจากที่ความโกรธสงบลง คนที่โกรธจะรู้สึกเสียใจ เศร้าใจ และทุกข์ทรมานใจ เหมือนกับคนที่ถูกไฟเผา

อธิบายขยายความได้ดังนี้:

  • “ภายหลัง เมื่อความโกรธหายแล้ว” หมายถึง ช่วงเวลาหลังจากที่อารมณ์โกรธได้ผ่านพ้นไป จิตใจกลับมาสงบลง เริ่มมีสติและกลับมาคิดทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
  • “เขาย่อมเดือดร้อน” หมายถึง ความรู้สึกทุกข์ใจ เสียใจ เศร้าโศก ไม่สบายใจ รู้สึกผิด
  • “เหมือนถูกไฟไหม้” เป็นอุปมาเปรียบเทียบความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้น ว่ารุนแรง เจ็บปวด และแผดเผา เหมือนกับความเจ็บปวดจากบาดแผลไฟไหม้
ทำไมจึงรู้สึก “เดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้” หลังจากหายโกรธ?

หลังจากหายโกรธ คนเรามักจะรู้สึกเสียใจและทุกข์ทรมาน เนื่องจาก:

  1. การสำนึกผิด: เมื่อมีสติกลับคืนมา จะเริ่มตระหนักถึงการกระทำ คำพูด หรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตนเองที่ทำลงไปในขณะที่โกรธ นำไปสู่ความรู้สึกผิด เสียใจ และละอายใจ
  2. ผลกระทบที่ตามมา: เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการกระทำของตนเองในขณะที่โกรธ เช่น ความสัมพันธ์ที่เสียหาย ทรัพย์สินที่ถูกทำลาย โอกาสที่สูญเสียไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำความทุกข์และความเสียใจให้เพิ่มมากขึ้น
  3. ความรู้สึกละอาย: รู้สึกอับอายต่อการกระทำของตัวเองที่ขาดสติ ขาดความยั้งคิด ซึ่งอาจทำให้เสียชื่อเสียง เสียภาพลักษณ์ และสูญเสียความเคารพนับถือจากผู้อื่น
  4. ความเจ็บปวดทางใจ: ความรู้สึกผิด ความเสียใจ ความละอาย และความทุกข์จากผลกระทบที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นความเจ็บปวดทางใจที่รุนแรง เปรียบเสมือนแผลไฟไหม้ที่สร้างความทรมานอย่างแสนสาหัส
  5. การยากจะแก้ไข: บางครั้งผลลัพธ์ที่เกิดจากความโกรธอาจยากเกินกว่าจะแก้ไข หรือไม่อาจแก้ไขได้เลย ยิ่งทำให้รู้สึกเสียใจและทุกข์ทรมานมากขึ้น
ความรุนแรงของ “ไฟ” ที่แผดเผา ขึ้นอยู่กับ:
  • ระดับความรุนแรงของความโกรธ: ยิ่งโกรธมาก ทำอะไรรุนแรงมาก ความรู้สึกผิดและผลที่ตามมาก็ยิ่งรุนแรง
  • สิ่งที่สูญเสียไป: ยิ่งสิ่งที่สูญเสียไปเพราะความโกรธ มีความสำคัญมากเพียงใด ความทุกข์ก็จะยิ่งมากตามไปด้วย
  • ความสามารถในการให้อภัยตัวเอง: หากไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ ก็จะยิ่งจมอยู่กับความทุกข์และความเสียใจ
สรุป:

สุภาษิตนี้เป็นคำเตือนใจให้เราเห็นถึงโทษของความโกรธ สอนให้เรารู้จักควบคุมอารมณ์ มีสติอยู่เสมอ เพราะเมื่อความโกรธหายไป สิ่งที่เหลือไว้คือความทุกข์ ความเสียใจ และความทรมานใจ การฝึกสติ เจริญเมตตา และฝึกจิตใจให้สงบ จะช่วยให้เราเอาชนะความโกรธ และป้องกันไม่ให้เกิดความเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้ในภายหลังได้


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....