เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ความกำหนัดเพราะดำริ เป็นกามของคน
ความกำหนัดเพราะดำริ เป็นกามของคน

ควาหมายของพุทธศาสนสุภาษิต ความกำหนัดเพราะดำริ เป็นกามของคน

พุทธศาสนสุภาษิต “ความกำหนัดเพราะดำริ เป็นกามของคน” มาจากพระบาลีบทว่า สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม. (สํ. ส. ๑๕/๓๒. อง. ฉกฺก. ๒๒/๔๖๐.) มีความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติของ “กาม” ในมุมมองของพระพุทธศาสนา โดยชี้ให้เห็นว่า กามเกิดจากความดำริ ความคิดปรุงแต่งของจิตใจมนุษย์ นั่นเอง

อธิบายความหมาย

  • ความกำหนัด: หมายถึง ความอยาก ความใคร่ ความพอใจในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
  • เพราะดำริ: หมายถึง เกิดจากการคิด การปรุงแต่ง การจินตนาการของจิตใจ
  • เป็นกามของคน: หมายถึง สิ่งนี้แหละคือกามที่เกิดขึ้นในมนุษย์

พุทธศาสนสุภาษิตนี้เน้นย้ำว่า กาม ไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์ทางเพศ หรือความใคร่ในวัตถุภายนอกเท่านั้น แต่ กาม เกิดจากการที่จิตใจไปยึดติด คิดปรุงแต่ง ให้สิ่งต่าง ๆ น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ

ตัวอย่าง

  • เห็นรูปภาพอาหาร แล้วเกิดความอยากกิน (จิตปรุงแต่งว่าอาหารนั้นอร่อย)
  • ได้ยินเสียงเพลง แล้วเกิดความรู้สึกชอบ อยากฟังอีก (จิตปรุงแต่งว่าเพลงนั้นไพเราะ)
  • เห็นคนหน้าตาดี แล้วเกิดความรู้สึกหลงใหล (จิตปรุงแต่งว่าคนนั้นมีเสน่ห์)

ความสำคัญของพุทธศาสนสุภาษิตนี้

  • ช่วยให้เข้าใจธรรมชาติของกาม
  • เตือนสติให้ระวังความคิดปรุงแต่ง
  • ชี้แนะแนวทางการดับทุกข์ ที่เกิดจากกาม ด้วยการฝึกสติ ไม่ให้จิตใจตกเป็นทาสของความกำหนัด

สรุป

กาม ตามความหมายในพุทธศาสนา ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องทางเพศ แต่หมายรวมถึงความอยาก ความยึดติด ในสิ่งต่าง ๆ ซึ่งล้วนเกิดจากความคิดปรุงแต่งของจิตใจ ดังนั้น การฝึกสติ รู้เท่าทันความคิด จึงเป็นหนทางสำคัญในการหลุดพ้นจากกาม และทุกข์ทั้งปวง


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....