
พุทธศาสนสุภาษิต “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” มาจากพระบาลีบทว่า กลฺยาณการี กลฺยาณํ. ปาปการี จ ปาปกํ. (สํ. ส. ๑๕/๓๓๓. ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/๘๔.) เป็นหลักธรรมสำคัญที่อธิบาย กฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นหัวใจหลักของพระพุทธศาสนา หมายความว่า การกระทำใด ๆ ที่เราทำ ย่อมส่งผลสืบเนื่องมาถึงตัวเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่ดี (กุศลกรรม) หรือการกระทำที่ไม่ดี (อกุศลกรรม)
ความหมายโดยละเอียด
- ทำดีได้ดี: การทำความดี การช่วยเหลือผู้อื่น การประพฤติชอบ ย่อมส่งผลให้เกิดความสุข ความเจริญ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
- ทำชั่วได้ชั่ว: การทำความชั่ว การเบียดเบียนผู้อื่น การประพฤติผิด ย่อมส่งผลให้เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อน ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
- กฎแห่งกรรม: สะท้อนหลักการของพุทธศาสนาเรื่องเหตุและผล ว่าสิ่งที่ทำไปย่อมส่งผลคืนมาเสมอ
- แรงบันดาลใจในการทำความดี: สนับสนุนให้ผู้คนเลือกทำความดี เพราะผลที่ได้จะนำความสุขและความเจริญมาให้
- ข้อเตือนใจ: เตือนให้ระมัดระวังการกระทำ เพราะการทำชั่วแม้จะไม่ส่งผลทันที แต่ในที่สุดย่อมต้องได้รับผลร้ายนั้น
หลักกรรม
- กรรม หมายถึง การกระทำ ทั้งทางกาย วาจา และใจ
- กฎแห่งกรรม คือ กฎธรรมชาติ ที่ว่า การกระทำใด ๆ ย่อมมีผลตอบสนอง ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว
- กรรมเป็นของเฉพาะตน ไม่มีใครสามารถรับกรรมแทนกันได้
ตัวอย่างการใช้ในชีวิตประจำวัน
- “อย่าคิดร้ายต่อใครเลยนะ จำไว้ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว“
- “เขาช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังผล ตอนนี้เขาได้รับความช่วยเหลือกลับมา เห็นไหมว่า ทำดีได้ดี จริง ๆ”
พุทธศาสนสุภาษิตนี้สอนให้เรา:
- เชื่อในกฎแห่งกรรม: การกระทำทุกอย่าง ย่อมมีผล ไม่มีใครหนีกฎแห่งกรรมพ้น
- ละเว้นความชั่ว: ไม่ทำบาป ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เพราะจะทำให้เกิดความทุกข์
- หมั่นทำความดี: ช่วยเหลือผู้อื่น ประพฤติชอบ เพราะจะทำให้เกิดความสุข
สรุป
พุทธศาสนสุภาษิต “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” เป็นหลักธรรมที่สอนให้เรา มีสติในการดำเนินชีวิต รู้จักแยกแยะความดี ความชั่ว และเลือกทำแต่สิ่งที่ดีงาม เพื่อที่จะได้พบกับความสุข ความเจริญ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต