
พุทธศาสนสุภาษิต “ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย” มาจากพระบาลีบทว่า อปฺปมาโท อมตํ ปทํ (ขุ. ธ. ๒๕/๑๘. ขุ. ชา. ตึส. ๒๗/๕๒๔.) มีความหมายลึกซึ้ง ครอบคลุมหลายมิติ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการดำเนินชีวิตด้วยสติ รอบคอบ และไม่ประมาท
พุทธศาสนสุภาษิต “ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย” หมายถึง การดำเนินชีวิตด้วยความรอบคอบ มีสติ และไม่ประมาท เป็นหนทางที่จะนำไปสู่ความเจริญทั้งในทางโลกและทางธรรม ความไม่ประมาทช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความผิดพลาดและสร้างคุณงามความดี ทำให้ชีวิตสงบสุขและปลอดภัย เป็นคำสอนสำคัญที่เตือนให้มนุษย์รักษาสติและใช้ปัญญาในการตัดสินใจทุกเรื่อง.
ความหมายโดยละเอียด
- ความไม่ประมาท: หมายถึง การมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ รู้จักประมาณตน รอบคอบในการคิด พูด ทำ ไม่ประมาทเลินเล่อ ไม่หลงระเริงไปกับสิ่งภายนอก ไม่ยึดติดในความสุข และไม่จมปลักอยู่กับความทุกข์
- เป็นทางไม่ตาย: หมายถึง ทางแห่งความสุขความเจริญ การหลุดพ้นจากความทุกข์ การเข้าถึงอมตธรรมซึ่งก็คือพระนิพพาน
ความหมายในแต่ละมิติ
- การดำเนินชีวิต: ผู้ไม่ประมาท ย่อมดำเนินชีวิตด้วยความระมัดระวังรอบคอบ ไม่ประมาทในหน้าที่ การงาน การ เรียนและการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุและปัญหาต่าง ๆ
- การดูแลสุขภาพ: ผู้ไม่ประมาท ย่อมดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของตนเองให้แข็งแรงอยูเสมอ ออกกำลังกายรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอและฝึกฝนจิตใจให้เข้มแข็ง
- การพัฒนาตนเอง: ผู้ไม่ประมาท ย่อมมุ่งมั่นพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ทั้งทางด้านความรู้ทักษะคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้เป็นคนดีคนเก่งและมีคุณค่าต่อสังคม
- การสร้างบุญบารมี: ผู้ไม่ประมาท ย่อมขวนขวายในการทำความดี ละเว้นความชั่ว สั่งสมบุญบารมี เพื่อความสุข ความเจริญใน ชีวิตนี้และชาติหน้า
- การเข้าถึงพระนิพพาน: ความไม่ประมาท เป็นคุณธรรมสำคัญที่ช่วยให้เราหลุดพ้นจากกิเลสตัณหาและเข้าถึงพระนิพพานซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของชาวพุทธ
สรุป
“ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย” เป็นหลักธรรมสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราดำเนินชีวิตด้วยสติปัญญา และความรอบคอบไม่ประมาทในทุกเรื่อง เพื่อความสุขความเจริญและความหลุดพ้นจากความทุกข์อย่างแท้จริง