
พุทธศาสนสุภาษิตนี้ เตือนใจให้เรามีความเพียรพยายามในการทำงาน โดยเน้นย้ำว่า
“ยงฺกิญฺจิ สิถิลํ กมฺมํ น ตํ โหติ มหปฺผลํ” แปลว่า การงานอะไร ๆ ที่ย่อหย่อน ย่อมไม่มีผลมาก
ความหมาย
- การงานอะไร ๆ ที่ย่อหย่อน: หมายถึง การทำงานแบบขอไปที ไม่เต็มที่ ไม่ตั้งใจ ขาดความเอาใจใส่ ทุ่มเท หรือละเลย เช่น
- ทำงานแบบลวก ๆ
- ผัดวันประกันพรุ่ง
- ไม่พัฒนาฝีมือ
- ไม่มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
- ย่อมไม่มีผลมาก: หมายถึง งานนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ ได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร ไม่คุ้มค่ากับเวลาและแรงที่เสียไป อาจทำให้เกิดความเสียหาย เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา และส่งผลเสียต่อหน้าที่การงานในระยะยาว
ความหมายโดยรวม
หากบุคคลใดทำการงานหรือกิจกรรมใด ๆ ด้วยความเฉื่อยชา ขาดความมุ่งมั่น หรือทำแบบขอไปที ผลลัพธ์ของงานนั้นย่อมไม่ได้ดีหรือสำเร็จมากนัก เพราะความสำเร็จที่แท้จริงต้องมาจากความตั้งใจ ความพยายาม และความต่อเนื่องในการลงมือทำ
สรุป
พุทธศาสนสุภาษิตนี้สอนให้เรา
- มีความเพียร: ตั้งใจทำงาน ทุ่มเท เอาใจใส่ในทุกขั้นตอน
- มีความรับผิดชอบ: ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง
- มีความมุ่งมั่น: ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค พยายามฝ่าฟันจนกว่าจะประสบความสำเร็จ
ตัวอย่าง
- นักเรียนที่ตั้งใจเรียน หมั่นทบทวนบทเรียน ทำการบ้านอย่างสม่ำเสมอ ย่อมมีผลการเรียนที่ดี
- เกษตรกรที่ขยันทำไร่ไถนา ดูแลพืชผลอย่างดี ย่อมได้ผลผลิตที่งอกงาม มีรายได้ที่มั่นคง
ข้อคิด
การทำงานด้วยความเพียรพยายาม มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ดังนั้น เราควรนำพุทธศาสนสุภาษิตนี้ไปปรับใช้ในการทำงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งต่อตนเองและส่วนรวม