
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“รูปโฉมพอลวงคนโง่ให้หลงได้ แต่ลวงคนแสวงหาพระนิพพานไม่ได้เลย”
พุทธศาสนสุภาษิต “รูปโฉมพอลวงคนโง่ให้หลงได้ แต่ลวงคนแสวงหาพระนิพพานไม่ได้เลย” มาจากพระบาลีบทว่า อลํ พาลสฺส โมหาย โน จ ปารคเวสิโน (ม. ม. ๑๓/๔๐๑. ขุ. เถร. ๒๖/๓๗๗) เป็นคำสอนที่เตือนสติคนเราไม่ให้หลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอก
ความหมาย
- รูปโฉม: รูปร่างหน้าตาที่สวยงามหรือน่าดึงดูดใจ
- ลวง: ทำให้เข้าใจผิด หลงผิด หรือหลอกลวง
- คนโง่: คนที่ขาดปัญญา ขาดการพิจารณา หรือหลงใหลในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
- คนแสวงหาพระนิพพาน: คนที่มุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม เพื่อบรรลุธรรมอันสูงสุด คือ พระนิพพาน
ความหมายโดยรวม
สุภาษิตนี้สอนว่า ความงามภายนอกหรือรูปโฉมนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน และสามารถหลอกลวงผู้ที่ขาดปัญญาให้หลงใหลได้ แต่สำหรับผู้ที่มุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมเพื่อแสวงหาพระนิพพานแล้ว รูปโฉมนั้นไม่อาจทำให้หลงผิดได้ เพราะบุคคลเหล่านั้นได้พิจารณาและเข้าใจถึงความไม่เที่ยงของสังขารร่างกายแล้ว
การตีความและขยายความ
- ความไม่เที่ยงของรูปโฉม: ร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายก็จะเสื่อมโทรมลง ความสวยงามที่เคยมีก็อาจจะหมดไป
- ปัญญาในการพิจารณา: ผู้ที่แสวงหาพระนิพพานคือผู้ที่มีปัญญาในการพิจารณา มองเห็นความจริงของชีวิตว่า รูปโฉมเป็นเพียงสิ่งภายนอก ไม่ใช่แก่นแท้ของความเป็นมนุษย์
- คุณค่าที่แท้จริง: สุภาษิตนี้สอนให้เรามองคุณค่าของคนจากภายใน จิตใจ และคุณธรรม มากกว่าที่จะตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก
การนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
เราสามารถนำหลักคำสอนนี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดังนี้
- ไม่หลงใหลในรูปลักษณ์: ไม่ตัดสินคนจากรูปร่างหน้าตาภายนอก แต่ให้พิจารณาคุณธรรมและความสามารถของเขา
- ให้ความสำคัญกับคุณธรรม: พัฒนาคุณธรรม จิตใจ และปัญญาของตนเองให้ดีขึ้น
- มองความงามที่ภายใน: มองหาความงามที่มาจากจิตใจที่ดีงาม มากกว่าที่จะมองหาความงามจากรูปลักษณ์ภายนอก
สุภาษิตนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้เราไม่หลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอก และให้เรามุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี มีปัญญา เพื่อที่จะได้ไม่หลงผิดไปในทางที่ผิด