
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต
“สัตบุรุษไม่มีในชุมนุมใด ชุมนุมนั้นไม่ชื่อว่าสภา”
พุทธศาสนสุภาษิต “สัตบุรุษไม่มีในชุมนุมใด ชุมนุมนั้นไม่ชื่อว่าสภา” มาจาพระบาลีบทว่า เนสา สภา ยตฺถ น สนฺติ สนฺโต (สํ. ส. ๑๕/๒๗๐. ขุ. ชา. อสีติ. ๒๘/๑๕๑) เป็นคำสอนที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีคนดีหรือ “สัตบุรุษ” ในการประชุม หรือการรวมกลุ่มใดๆ ก็ตาม
ความหมาย
- สัตบุรุษ: หมายถึง คนดี คนที่มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความเมตตา และมีความรู้ความสามารถ
- ชุมนุม: หมายถึง การรวมกลุ่มกันของคนตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อทำกิจกรรมใดๆ ร่วมกัน เช่น การประชุม การปรึกษาหารือ หรือการจัดงาน
- สภา: ในที่นี้หมายถึง สถานที่หรือกลุ่มบุคคลที่มารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ
ความหมายโดยรวม
สุภาษิตนี้สอนว่า การประชุมหรือการรวมกลุ่มใดๆ ก็ตาม หากไม่มีคนดีหรือสัตบุรุษเข้าร่วม ชุมนุมนั้นก็จะไม่ประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง หรืออาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพราะคนดีจะเป็นผู้ที่มีเหตุผล มีความยุติธรรม และมีความรู้ความสามารถในการนำพาให้กลุ่มดำเนินไปในทางที่ถูกต้อง
การตีความและขยายความ
- ความสำคัญของคนดี: สุภาษิตนี้เน้นย้ำว่า คนดีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างสรรค์สังคมที่ดี การมีคนดีในชุมนุมจะช่วยให้การตัดสินใจต่างๆ เป็นไปอย่างถูกต้อง ยุติธรรม และมีประสิทธิภาพ
- ลักษณะของสัตบุรุษ: สัตบุรุษคือผู้ที่มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความเมตตา มีความรู้ความสามารถ และมีความรับผิดชอบ การมีสัตบุรุษในชุมนุมจะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
- ความสำคัญของการเลือกคน: การเลือกคนเข้าร่วมชุมนุมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณาถึงคุณธรรมและความสามารถของบุคคลที่จะเข้าร่วม เพื่อให้ชุมนุมนั้นมีประสิทธิภาพและสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
การนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
เราสามารถนำหลักคำสอนนี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดังนี้
- การเลือกคนเข้าร่วมกลุ่ม: ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การทำกิจกรรม หรือการเข้าร่วมชมรมต่างๆ ควรพิจารณาเลือกคนที่มีคุณธรรม มีความรู้ความสามารถ และมีความรับผิดชอบ เพื่อให้กลุ่มนั้นมีประสิทธิภาพและสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
- การเป็นคนดี: เราควรพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความเมตตา และมีความรู้ความสามารถ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมที่ดี
- การส่งเสริมคนดี: เราควรสนับสนุนและส่งเสริมคนดีให้มีบทบาทในการนำสังคม เพื่อให้สังคมของเราพัฒนาไปในทางที่ถูกต้องและดีงาม
สุภาษิตนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้เราเห็นความสำคัญของการมีคนดีในสังคม และให้เราพยายามพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมที่น่าอยู่