
เรื่องราวการออกแบบจีวรของพระอานนท์นั้นไม่ได้ปรากฏชัดเจนในพระไตรปิฎก แต่ปรากฏอยู่ใน อรรถกถา ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่อธิบายขยายความพระไตรปิฎก โดยเฉพาะใน อรรถกถาสมันตปาสาทิกา แปลโดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) โดยมีรายละเอียดดังนี้:
เหตุการณ์:
ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าเสด็จจาริกไปในแคว้นมคธพร้อมด้วยพระอานนท์ พระองค์ทอดพระเนตรเห็นคันนาของชาวมคธที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย จึงตรัสกับพระอานนท์ว่า
“อานนท์ เธอเห็นคันนาของชาวมคธที่เขาจัดไว้เป็นระเบียบนั้นไหม”
“เห็น พระเจ้าข้า” พระอานนท์ทูลตอบ
“เธอสามารถแต่งผ้าของภิกษุทั้งหลายให้มีรูปอย่างนั้นได้หรือไม่”
“สามารถ พระเจ้าข้า”
จากนั้นพระอานนท์จึงคิดแบบและตัดเย็บจีวร โดยออกแบบให้มีลักษณะคล้ายคันนา ประกอบด้วยผืนผ้าเล็กๆ สี่เหลี่ยมมาต่อกัน แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
- ผ้า 5 ขัณฑ์ (ขันฑ์ = ท่อน, ส่วน): แต่ละขัณฑ์ประกอบด้วยผ้าชิ้นเล็กๆ เย็บต่อกัน และมีผ้าขั้นระหว่างขัณฑ์ เรียกว่า “กุสิ” คั่นขวาง (ขัณฑ์ = ส่วนตามยาว, กุสิ = ส่วนตามขวาง)
- ผ้า 7 ขัณฑ์: มีลักษณะเช่นเดียวกับผ้า 5 ขัณฑ์ แต่เพิ่มจำนวนขัณฑ์เป็น 7 ขัณฑ์
เมื่อพระอานนท์ตัดเย็บจีวรเสร็จแล้ว จึงนำไปถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงพอพระทัยและทรงอนุญาตให้ภิกษุใช้ผ้าที่ตัดเย็บแบบนี้ได้ รูปแบบจีวรที่พระอานนท์ออกแบบจึงกลายเป็นต้นแบบของจีวรที่พระภิกษุใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบจีวร:
- คันนา: ในอรรถกถาระบุว่าคันนาของชาวมคธมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีทั้งคันนายาวและคันนาสั้น คันนาสั้นจะแทรกอยู่ระหว่างคันนายาว เปรียบเสมือนผ้าชิ้นเล็กที่เย็บแทรกระหว่างผ้าชิ้นใหญ่ในจีวร
- อนุวาต: คือผ้าที่เย็บรอบขอบจีวร เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและป้องกันขอบผ้าหลุดลุ่ย
- ความหมายเชิงสัญลักษณ์: การออกแบบจีวรให้เหมือนคันนา นอกจากจะมีความสวยงามและเป็นระเบียบแล้ว ยังแฝงความหมายเชิงสัญลักษณ์ เปรียบเสมือนการที่พระภิกษุต้องหมั่นเพียรปฏิบัติธรรม “ปลูก” กุศลธรรมให้งอกงามในจิตใจ เหมือนชาวนาที่ปลูกข้าวในนา
สถานที่:
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่พระพุทธเจ้าและพระอานนท์กำลังจาริกอยู่ใน แคว้นมคธ (ปัจจุบันอยู่ในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย) ไม่ได้ระบุสถานที่อย่างเฉพาะเจาะจงว่าเป็นที่ใด
สรุป:
การออกแบบจีวรของพระอานนท์เป็นการปฏิบัติตามพุทธบัญญัติ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคันนาของชาวมคธ รูปแบบจีวรที่ท่านออกแบบไม่เพียงแต่มีความสวยงามและใช้งานได้ดี แต่ยังแฝงไปด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง และได้กลายเป็นต้นแบบของจีวรที่พระภิกษุใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้