
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต “ผู้บริโภคกามเป็นผู้พร่อง ละร่างกายไป”
พุทธศาสนสุภาษิต “ผู้บริโภคกามเป็นผู้พร่อง ละร่างกายไป” มาจากพระบาลีบทว่า อูนา ว หุตฺวาน ชหนฺติ เทหํ. (ม. ม. ๑๓/๔๑๒. ขุ. เถร. ๒๖/๓๗๗. ) หมายความว่า บุคคลที่หมกมุ่นอยู่กับการเสพกามคุณ (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่น่าปรารถนา) จะเป็นผู้ที่ยังบกพร่อง ไม่เต็มเปี่ยม และเมื่อละจากโลกนี้ไป ก็จะไปสู่ภพภูมิที่ไม่ดี หรือยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกเพราะยังไม่หลุดพ้นจากกิเลส
อธิบายขยายความได้ดังนี้:
- ผู้บริโภคกาม : หมายถึง ผู้ที่เสพกามคุณ หรือผู้ที่แสวงหาความสุขจาก รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และอารมณ์ที่น่าพอใจ
- เป็นผู้พร่อง : หมายถึง ผู้ที่ยังไม่เต็มเปี่ยม ยังบกพร่อง ยังไม่สมบูรณ์ ในที่นี้หมายถึงบกพร่องในทางธรรม ยังมีกิเลส ยังไม่หลุดพ้น
- ละร่างกายไป : หมายถึง ตาย, ละจากโลกนี้ไป
- วชฺชติ ในบางบริบทอาจแปลว่า “ไปสู่” หรือ “ดำเนินไปสู่” ซึ่งในที่นี้สามารถตีความได้ว่า ไปสู่ภพภูมิที่ไม่ดี หรือยังต้องเวียนว่ายตายเกิด
ความหมายเชื่อมโยงกับหลักธรรมในพุทธศาสนา:
- กามตัณหา: ความอยากในกามคุณ เป็นหนึ่งในตัณหา 3 (กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา) ซึ่งเป็นเหตุแห่งทุกข์
- วัฏสงสาร: การเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่ยังไม่สามารถละกิเลสได้หมดสิ้น
- อบายภูมิ: ภูมิที่ต่ำ ภูมิที่ชั่ว มี 4 คือ นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน เป็นภพภูมิที่ผู้ทำบาปกรรมต้องไปเกิด
- นิพพาน: ความดับทุกข์ ดับกิเลส หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เป็นเป้าหมายสูงสุดในทางพุทธศาสนา
ทำไมผู้บริโภคกามจึงเป็นผู้พร่องและละไปอย่างไม่สมบูรณ์?
- เพราะยังติดอยู่ในกิเลส: ผู้ที่หมกมุ่นในกามคุณ แสดงว่ายังไม่สามารถละกิเลส โดยเฉพาะกามตัณหาได้
- เพราะยังแสวงหาความสุขที่ไม่ยั่งยืน: ความสุขจากกามคุณเป็นเพียงความสุขชั่วคราว ไม่จีรัง เมื่อเสพแล้วก็หมดไป ต้องแสวงหามาเสพใหม่อยู่เรื่อยๆ
- เพราะยังไม่เข้าใจความจริงของชีวิต: ยังไม่เข้าใจว่าชีวิตเป็นทุกข์ ยังไม่เข้าใจว่าการเวียนว่ายตายเกิดเป็นทุกข์ ยังไม่เข้าใจว่าเป้าหมายสูงสุดของชีวิตคือการหลุดพ้นจากทุกข์
สรุปความหมาย:
ผู้ที่ยังหมกมุ่นอยู่กับกามคุณนั้น ถือว่าเป็นผู้ที่ยังบกพร่อง ยังไม่สมบูรณ์ ยังไม่หลุดพ้นจากกิเลส เมื่อตายไปก็ยังไม่สามารถบรรลุนิพพานได้ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป หรืออาจไปสู่ภพภูมิที่ไม่ดี ขึ้นอยู่กับกรรมที่ได้กระทำไว้
แนวทางแก้ไข:
เช่นเดียวกับพุทธศาสนสุภาษิตก่อนหน้านี้ หนทางที่จะแก้ไขได้คือ การลด ละ เลิก ความหมกมุ่นในกามคุณ ฝึกฝนตนเองให้รู้จักพอ เจริญสติ พัฒนาปัญญา เพื่อให้เห็นตามความเป็นจริงว่า ความสุขจากกามนั้นไม่จีรัง นำมาซึ่งความทุกข์ และเป็นอุปสรรคต่อการหลุดพ้น
สาระสำคัญ:
พุทธศาสนสุภาษิตนี้สอนให้เราเห็นโทษของการติดอยู่ในกามคุณ และชี้แนะให้เราแสวงหาหนทางหลุดพ้นจากกิเลส เพื่อชีวิตที่ดีกว่าทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
การอธิบายพุทธศาสนสุภาษิต อูนา ว หุตฺวาน ชหนฺติ เทหํ ผู้บริโภคกามเป็นผู้พร่อง ละร่างกายไป อาจจะไม่ตรงประเด็นมากนัก ฉะนั้น ฝากผู้ศึกษาไว้พิจารณาตามด้วยครับ