
อธิบายความหมายของศีล 5
ศีล 5 หรือ เบญจศีล เป็นหลักธรรมพื้นฐานในพระพุทธศาสนาสำหรับฆราวาส เป็นข้อปฏิบัติเบื้องต้นที่ช่วยให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข โดยไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ประกอบด้วยข้อห้าม 5 ประการ ดังนี้
1. ปาณาติปาตา เวรมณี เว้นจากการฆ่าสัตว์การฆ่าสัตว์เป็นหลัก และบริบท อื่น ๆ เช่น
- ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทำร้ายสัตว์ รวมถึงมนุษย์ด้วย
- ไม่ทรมานสัตว์ ไม่รังแกสัตว์
- ระมัดระวังไม่ให้ชีวิตสัตว์เสียหาย เช่น ขับรถระวัง ไม่เหยียบสัตว์
2. อทินนาทานา เวรมณี เว้นจากการลักทรัพย์ หรือเอาของที่เจ้าของไม่ได้ให้ และบริบทอื่น ๆ เช่น
- ไม่ลักขโมย ไม่ฉกชิงวิ่งราว
- ไม่โกง ไม่คดโกง ไม่ยักยอกทรัพย์
- ไม่เบียดบังเอาเปรียบผู้อื่น
- ไม่รับของโจร
3. กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี เว้นจากการประพฤติผิดในกาม และบริบทอื่น ๆ เช่น
- ไม่ล่วงเกินคู่ครองของผู้อื่น
- ไม่ประพฤติตนเป็นชู้
- ไม่ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น
- สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงาน ควรประพฤติตนในทางที่เหมาะสม
4. มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากการพูดเท็จ และบริบทอื่น ๆ เช่น
- ไม่พูดโกหก ไม่หลอกลวง
- ไม่พูดส่อเสียด นินทาว่าร้ายผู้อื่น
- ไม่พูดคำหยาบ คำลามก
- พูดแต่คำจริง คำสุภาพ คำที่เป็นประโยชน์
5. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี เว้นจากการดื่มสุราและของมึนเมา และ บริบทอื่น ๆ เช่น
- ไม่ดื่มสุรา เหล้า เบียร์
- ไม่เสพยาเสพติด
- ไม่ใช้สารเสพติดทุกชนิด ที่ทำให้ขาดสติ
ประโยชน์ของการรักษาศีล 5
- ทำให้ชีวิตมีความสุข สงบ ไม่เดือดร้อน
- ทำให้เป็นที่รัก และเคารพของคนทั่วไป
- ทำให้มีจิตใจบริสุทธิ์ ผ่องใส
- เป็นบาทฐานของการทำความดีอื่นๆ เช่น การให้ทาน การภาวนา
- ช่วยให้เกิดปัญญา และความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
การรักษาศีล 5 เป็นการฝึกฝนตนเองให้เป็นคนดี มีคุณธรรม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข แม้จะเป็นหลักธรรมเบื้องต้น แต่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิต
ศีล 5 หรือหลักปฏิบัติขั้นพื้นฐานของมนุษย์นี้ ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มชาวพุทธเท่านั้น แต่เป็นประโยชน์กับมนุษย์ ไม่ว่าจะชนชาติใด หรือศาสนาใด จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม แต่ถ้าปฏิบัติแล้ว ย่อมได้รับประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ต่อชุมชนและประเทศชาตินั้น ๆ