เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ภาพปริศนาธรรม หาบช้างกับแมว
ภาพปริศนาธรรม หาบช้างกับแมว

ความหมาย ภาพปริศนาธรรม หาบช้างกับแมว

ภาพหญิงสาวที่หาบตะกร้าสองใบ ข้างหนึ่งมีช้าง อีกข้างหนึ่งมีแมว ถึงแม้จะเป็นภาพที่ดูเหนือจริง แต่ก็สามารถตีความและให้ข้อคิดคติสอนใจได้หลายแง่มุม ดังนี้:

1. ความสมดุล:

  • ภาพนี้สื่อถึง ความสมดุล อย่างชัดเจน แม้ว่าช้างและแมวจะมีขนาดและน้ำหนักที่แตกต่างกันมาก แต่หญิงสาวในภาพก็สามารถหาบทั้งสองสิ่งได้อย่างสมดุล
  • ข้อคิด: ในชีวิตของเรา เราต้องเผชิญกับสิ่งที่แตกต่างหลากหลาย ทั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็ก การรู้จัก สร้างสมดุล ให้กับทุกสิ่ง ทั้งการงาน การเงิน ครอบครัว สุขภาพ และจิตใจ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราดำเนินชีวิตไปได้อย่างราบรื่นและมีความสุข

2. การจัดการกับปัญหา:

  • ช้างเปรียบเสมือน ปัญหาใหญ่ แมวเปรียบเสมือน ปัญหาเล็ก
  • ข้อคิด: ไม่ว่าปัญหาจะใหญ่หรือเล็ก เราก็สามารถจัดการและรับมือกับมันได้ หากเรามีสติ รู้จักคิดวิเคราะห์ และหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม อย่าเพิ่งท้อแท้หรือสิ้นหวังเมื่อเจอปัญหาใหญ่

3. มุมมองที่แตกต่าง:

  • ภาพนี้ท้าทาย มุมมอง ของเรา โดยปกติแล้ว ช้างย่อมหนักกว่าแมว แต่ในภาพนี้ทั้งสองกลับมีน้ำหนักเท่ากัน
  • ข้อคิด: บางครั้งสิ่งที่เราเห็นหรือรับรู้อาจจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เราควรเปิดใจรับฟังมุมมองที่แตกต่าง และพิจารณาสิ่งต่างๆ อย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสิน

4. ความสามารถที่ซ่อนเร้น:

  • หญิงสาวในภาพอาจดูบอบบาง แต่เธอกลับสามารถหาบสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้
  • ข้อคิด: คนเราทุกคนล้วนมีความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ อย่าดูถูกตัวเองหรือผู้อื่น จงเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง และพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

5. ความไม่ยึดติด:

  • ภาพนี้อาจสื่อถึง การไม่ยึดติด กับขนาด รูปร่าง หรือน้ำหนัก
  • ข้อคิด: ในทางพุทธศาสนา การยึดติดนำมาซึ่งความทุกข์ เราควรฝึกปล่อยวาง ไม่ยึดติดกับสิ่งต่าง ๆ มองสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง อธิบายว่า ในชีวิตจริงของคนเรา ย่อมประสบกับสิ่งที่น่าปราราถนา เช่น สุข สรรเสริญ ลาภ ยศ รูปที่สวยงาม เสียงที่ไพเราะ กลิ่นหอมที่ชวนหลงใหล อาหารที่ถูกลิ้น สัมผัสที่อ่อนนุ่มถูกใจ อารมณ์ที่นึกแล้วเกิดสุขทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม และย่อมประสบกับอารมณ์ไม่ปรารถนา เช่น ทุกข์ นินทา ความเสื่อมลาภ ความเสื่อมยศ เห็นในสิ่งที่ไม่น่ามอง ฟังเสียงที่ขัดหู รับรู้รสที่ไม่ถูกลิ้น ได้กลิ่นที่ไม่ถูกใจ ได้สัมผัสแตะต้องในสิ่งที่ไม่ต้องการ นึกถึงบางอย่างแล้วเศร้าใจ รวมความทั้งหมดเรียกว่า โลกธรรม คือสิ่งที่ชอบใจและไม่ชอบใจ เราทุกคนต้องประสบพบเจอ เมื่อพบเจอแล้วควรทำใจให้เป็นกลาง คือทำใจให้เท่ากันในอารมณ์ทั้งสอง คือไม่ยินดี ดีใจมากจนเกินไปเมื่อประสบกับสิ่งชอบใจ ไม่ร้องไห้เสียใจเมื่อประสบกับสิ่งที่ไม่ชอบใจ ทำใจให้เสมอกัน เมื่อทำเช่นนั้นได้ ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ยึดติดในอารมณ์ทั้งสอง ย่อมไม่ทุกข์ใจเมื่อประสบกับอารมณ์ที่ไม่ชอบใจ ย่อมไม่หลงใหลในอารมณ์ที่ชอบใจ

6. อารมณ์ขันและการมองโลกในแง่ดี:

  • ภาพนี้มีความ เหนือจริง และ ตลกขบขัน
  • ข้อคิด: การมีอารมณ์ขันและมองโลกในแง่ดี จะช่วยให้เราเผชิญกับปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้ง่ายขึ้น

7. ความแข็งแกร่งของผู้หญิง:

  • ภาพนี้แสดงให้เห็นถึง ความแข็งแกร่งของผู้หญิง ที่สามารถรับมือกับสิ่งที่ท้าทายได้
  • ข้อคิด: ผู้หญิงมีความเข้มแข็ง อดทน และสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากมาย ไม่แพ้ผู้ชาย

สรุป:

ภาพนี้เป็นภาพที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยข้อคิด เตือนใจให้เราใช้ชีวิตอย่างสมดุล รู้จักจัดการกับปัญหา เปิดใจรับฟังมุมมองที่แตกต่าง เชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง และไม่ยึดติดกับสิ่งต่างๆ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้หญิงอีกด้วย การตีความภาพนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และมุมมองของแต่ละบุคคล

ส่วนตัวคิดถึงคำนี้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อหลายสิบปี หรือแค่ได้ยินคำว่า “หาบช้างซาแมว” ก็นึกถึงโลกธรรม 8คืออารมณ์ที่น่าปรารถนา น่าชอบใจ สุข สรรเสริญ ลาภ ยศ และ อารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าชอบใจ ทุกข์ นินทา เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ทั้ง 8 ประการนี้ เราจะชอบใจหรือไม่ชอบใจ ต้องการหรือไม่ต้องการ ก็ย่อมเกิดขึ้นกับทุกคนได้ ฉะนั้น ควรทำอารมณ์ หรือควรฝึกอารมณ์ให้เสมอกัน เท่ากัน เมื่อประสบกับสิ่งที่ปรารถนาหรือกับสิ่งที่ไม่น่าปรารถนา ถูกใจก็หลงจนเกินไป ไม่ถูกใจก็ไม่เสียใจ

ทำได้หรือไม่ได้อีกเรื่อง แต่ต้องฝึกเหมือนคนหาบช้างและแมวคู่กัน ยังหาบได้ด้วยใบหน้าปกติ
แม้จะเทียบช้างซาแมวคือบุญและบาป ก็ยังจัดเข้าในโลกธรรมเช่นกัน
บุญหรือการให้ผลของบุญถือว่าเป็นสิ่งน่าปรารถนา บาปหรือการให้ผลของบาปก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาไม่ต้องการ เมื่อประสบพบเจอ หรือสิ่งหนึ่งใดให้ผล ก็ทำใจให้เป็นกลาง บุญหล่นทับก็ไม่หลงเกินไป ตกอับก็ไม่เสียใจจนทำอะไรไม่ได้


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....