
ในโลกของภาพยนตร์แอ็คชั่น มีหนังไม่กี่เรื่องที่สามารถผสมผสานความดุดันเลือดสาดเข้ากับเรื่องราวที่ลึกซึ้งและตัวละครที่มีมิติได้อย่างลงตัว และ The Equalizer (2014) หรือในชื่อไทย “มัจจุราชไร้เงา” คือหนึ่งในนั้น นี่คือภาพยนตร์ที่ปลุกตำนานซีรีส์ดังในยุค 80 ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งบนจอเงิน พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับหนังแนว “คนดีพิพากษาคนชั่ว” ได้อย่างน่าจดจำ
ข้อมูลภาพยนตร์
- ผู้กำกับ: อองตวน ฟูควา (Antoine Fuqua)
- นักแสดงนำ: เดนเซล วอชิงตัน (Denzel Washington), โคลอี เกรซ มอเรตซ์ (Chloë Grace Moretz), มาร์ตัน โชคาส (Marton Csokas)
- วันออกฉาย (ในประเทศไทย): 25 กันยายน 2014
เรื่องย่อ: การตื่นขึ้นของมัจจุราช
ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของ โรเบิร์ต แม็คคอลล์ (เดนเซล วอชิงตัน) ชายวัยกลางคนที่ใช้ชีวิตอย่างสมถะและมีระเบียบวินัยในฐานะพนักงานร้านขายอุปกรณ์แต่งบ้าน เขาทุกข์ทรมานจากโรคนอนไม่หลับและมักจะใช้เวลาช่วงกลางดึกอ่านหนังสือในร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่นั่น เขาได้รู้จักกับ อลินา (โคลอี เกรซ มอเรตซ์) โสเภณีวัยรุ่นผู้มีความฝันอยากเป็นนักร้อง แต่ชีวิตของเธอกลับถูกควบคุมโดยแก๊งมาเฟียรัสเซียที่โหดเหี้ยม
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่ออลินาถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณจนต้องเข้าโรงพยาบาล เหตุการณ์นี้ได้ปลุกสัญชาตญาณบางอย่างในตัวของแม็คคอลล์ให้ตื่นขึ้น อดีตที่เขาพยายามฝังกลบในฐานะเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษระดับพระกาฬได้กลับมาอีกครั้ง เขาตัดสินใจทวงความยุติธรรมให้กับอลินาด้วยการบุกเดี่ยวเข้าไปจัดการกับเหล่ามาเฟียในเวลาเพียง 19 วินาที การกระทำครั้งนี้ได้จุดชนวนสงครามเต็มรูปแบบระหว่างเขาและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เขาต้องใช้ทักษะการต่อสู้ การวางแผน และความเฉียบคมทั้งหมดที่มี เพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์และกำจัดเหล่าคนชั่วให้สิ้นซาก
ความนิยมและกระแสตอบรับ
The Equalizer ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในด้านรายได้ โดยทำเงินทั่วโลกไปกว่า 192 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างประมาณ 55-73 ล้านดอลลาร์ ความสำเร็จนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังดาราของเดนเซล วอชิงตัน และสไตล์การกำกับที่ดุดันของอองตวน ฟูควา แม้คำวิจารณ์จากนักวิจารณ์จะเสียงแตกไปบ้าง แต่ผู้ชมส่วนใหญ่ชื่นชอบในฉากแอ็คชั่นที่ดิบเถื่อน สมจริง และตัวละครเอกที่เยือกเย็นแต่เปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม จนนำไปสู่การสร้างภาคต่ออีกถึงสองภาค
ข้อคิดและสิ่งที่ได้จากภาพยนตร์
- ความยุติธรรมไม่จำเป็นต้องรอ: หนังนำเสนอแนวคิดที่ว่า บางครั้งความยุติธรรมก็ไม่สามารถรอขั้นตอนทางกฎหมายที่ล่าช้าได้ แม็คคอลล์กลายเป็นตัวแทนของคนที่ลุกขึ้นมา “ปรับสมดุล” ให้กับสังคมด้วยวิธีการของตัวเอง แม้จะเป็นวิธีที่รุนแรงก็ตาม
- ทุกคนมีอดีตและโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่: ตัวละครแม็คคอลล์พยายามใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อลบล้างอดีตของตนเอง แต่สุดท้ายอดีตก็ตามหาเขาจนเจอ หนังแสดงให้เห็นว่าเราไม่สามารถหนีอดีตได้ แต่เราเลือกได้ว่าจะนำประสบการณ์จากอดีตมาใช้เพื่อทำสิ่งที่ดีกว่าเดิมได้อย่างไร
- พลังของคนธรรมดา: หัวใจสำคัญของเรื่องคือการที่ “คนธรรมดา” คนหนึ่งสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ แม็คคอลล์ไม่ได้มีพลังพิเศษ แต่เขาใช้ทักษะ ความฉลาด และความมุ่งมั่นที่มีอยู่ เพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรม เป็นการส่งสารว่าทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ในแบบของตัวเองได้
The Equalizer (2014) ไม่ใช่แค่หนังแอ็คชั่นที่ดูเอามันส์ แต่เป็นภาพยนตร์ที่ชวนให้ขบคิดถึงความหมายของความยุติธรรม ศีลธรรม และพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวของคนทุกคนได้อย่างน่าทึ่ง