
ท่ามกลางหุบเขาและขุนเขาโบราณที่โอบล้อมเมืองราชคฤห์ (Rajgir) อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นมคธอันเกรียงไกรในพุทธกาล มียอดเขาแห่งหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม ยอดเขานี้ไม่เพียงมีความสำคัญทางภูมิศาสตร์ แต่ยังมีคุณค่าทางจิตวิญญาณอย่างสูงสุดในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา สถานที่แห่งนั้นคือ “เขาคิชฌกูฏ” (Gijjhakuta Peak) สถานที่โปรดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเลือกประทับและแสดงพระธรรมเทศนามากที่สุดแห่งหนึ่ง
บทความนี้จะพาทุกท่านเดินทางย้อนเวลา เพื่อสำรวจที่มาของชื่ออันเป็นเอกลักษณ์ และเจาะลึกถึงความสำคัญของยอดเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
ที่มาแห่งนาม “ยอดเขาแร้ง”
ชื่อ “คิชฌกูฏ” มาจากภาษาบาลี คือ “คิชฌะ” (Gijjha) ที่แปลว่า “แร้ง” และ “กูฏ” (Kuta) ที่แปลว่า “ยอดเขา” รวมกันจึงมีความหมายตรงตัวว่า “ยอดเขาแร้ง” (Vulture’s Peak) ซึ่งมีข้อสันนิษฐานถึงที่มาของชื่อ 2 ประการหลัก คือ
- รูปลักษณ์ดั่งพญาแร้ง: ทฤษฎีที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ ลักษณะทางกายภาพของชะง่อนหินบนยอดเขาสูงสุด ที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวและจงอยปากของนกแร้งขนาดใหญ่ ทำให้ผู้คนในสมัยนั้นเรียกขานตามลักษณะที่มองเห็น
- ถิ่นอาศัยของฝูงแร้ง: อีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่า ในอดีตบริเวณยอดเขาแห่งนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกแร้งจำนวนมาก ซึ่งมักจะบินวนเวียนอยู่บนท้องฟ้า ทำให้ภาพของฝูงแร้งกลายเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ไปโดยปริยาย

ความสำคัญในพุทธประวัติ: สถานที่โปรดของพระศาสดา
เขาคิชฌกูฏไม่ได้เป็นเพียงภูเขาหินธรรมดา แต่เป็นสถานที่มีชีวิตชีวาด้วยเรื่องราวทางธรรมะ เป็นสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงประทับจำพรรษาและใช้เป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่คำสอนอยู่หลายวาระ
- ที่ประทับพระคันธกุฎี (Gandhakuti): บนยอดเขานี้เป็นที่ตั้งของ “พระคันธกุฎี” หรือกุฏิที่ประทับอันมีกลิ่นหอมของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระเจ้าพิมพิสารทรงสร้างถวาย
- สถานที่แสดงพระธรรมเทศนาสำคัญ: พระสูตรสำคัญมากมายได้ถูกแสดงขึ้น ณ ที่แห่งนี้ โดยเฉพาะในพุทธศาสนานิกายมหายาน ที่เชื่อว่าพระสูตรอันยิ่งใหญ่อย่าง สัทธรรมปุณฑรีกสูตร (Lotus Sutra) และ ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร (Heart Sutra) ได้บังเกิดขึ้นบนยอดเขาคิชฌกูฏแห่งนี้
- ที่พำนักของพระอรหันต์: นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังมีถ้ำน้อยใหญ่ที่เป็นที่พำนักและบำเพ็ญเพียรของพระอรหันตสาวกองค์สำคัญหลายรูป เช่น ถ้ำสุกรขาตา ที่พำนักของพระสารีบุตร
การเดินทางสู่ยอดเขาคิชฌกูฏในปัจจุบัน
ปัจจุบัน การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาคิชฌกูฏนั้นสะดวกสบายกว่าในอดีตมาก ผู้แสวงบุญสามารถใช้บริการ กระเช้าลอยฟ้า (Ropeway) ซึ่งจะพาขึ้นไปสู่ยอดเขาฝั่งตรงข้ามที่มี วิศว ศานติ สถูป (Vishwa Shanti Stupa) หรือมหาสถูปแห่งสันติภาพโลกที่สร้างโดยพุทธศาสนิกชนชาวญี่ปุ่น จากนั้นจึงเดินเท้าต่อไปยังยอดเขาคิชฌกูฏ
บรรยากาศบนยอดเขาคิชฌกูฏนั้นเงียบสงบและเปี่ยมด้วยพลังแห่งศรัทธา ธงมนต์หลากสีสันของชาวพุทธทิเบตปลิวไสวไปตามแรงลม เสียงสวดมนต์ของพระสงฆ์และผู้แสวงบุญดังก้องเบาๆ ท่ามกลางทิวทัศน์อันกว้างไกลของเมืองราชคฤห์เบื้องล่าง

บทสรุป
เขาคิชฌกูฏจึงเป็นมากกว่าสถานที่ทางประวัติศาสตร์ แต่เป็นมรดกทางจิตวิญญาณที่ยังมีลมหายใจ เป็นยอดเขาที่ทุกย่างก้าวสะท้อนถึงรอยธรรมของพระศาสดา และทุกอณูของบรรยากาศยังคงสะท้อนก้องกังวานถึงพระธรรมเทศนาที่เคยแสดงไว้เมื่อกว่าสองพันห้าร้อยปีก่อน การได้มาเยือนที่แห่งนี้สักครั้ง จึงเป็นดั่งการเดินทางกลับไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ณ ยอดเขาแห่งปัญญาแห่งนี้
ข้อมูลสำคัญ:
- ที่ตั้ง: เมืองราชคฤห์ (Rajgir), รัฐพิหาร (Bihar), ประเทศอินเดีย
- ความสำคัญ: สถานที่ประทับและแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า, จุดกำเนิดพระสูตรสำคัญในฝ่ายมหายาน
- การเดินทาง: สามารถใช้บริการกระเช้าลอยฟ้า (Ropeway) เพื่อความสะดวกสบาย