เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ประวัติธรรมราชิกสถูป ณ สารนาถ: สถูปแห่งพระธรรมราชา สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองและอนิจจัง
ประวัติธรรมราชิกสถูป ณ สารนาถ: สถูปแห่งพระธรรมราชา สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองและอนิจจัง

ณ ดินแดนอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองสารนาถ สถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ยังคงปรากฏร่องรอยแห่งมหาเจดียสถานสำคัญแห่งหนึ่งนามว่า ธรรมราชิกสถูป แม้วันนี้จะเหลือเพียงฐานราก แต่เรื่องราวในอดีตของสถูปองค์นี้ได้จารึกประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาไว้ได้อย่างมิรู้ลืม

การสถาปนาโดยพระเจ้าอโศกมหาราช

ธรรมราชิกสถูป สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 3 (ประมาณ 249 ปีก่อนคริสตกาล) โดยพระเจ้าอโศกมหาราช จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์เมารยะ หลังจากที่พระองค์ทรงหันมายอมรับนับถือพระพุทธศาสนาอย่างสุดหัวใจ ทรงมีพระราชศรัทธาอย่างแรงกล้าที่จะเผยแผ่พระธรรมคำสอนให้แผ่ไพศาลไปทั่วทุกทิศา

พระองค์ได้มีพระบรมราชโองการให้สร้างสถูปขึ้น 84,000 องค์ทั่วชมพูทวีป เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงรวบรวมมาจากสถูปโบราณต่างๆ และ “ธรรมราชิกสถูป” คือหนึ่งในสถูปองค์สำคัญที่สุดที่สร้างขึ้นในครั้งนั้น ณ สถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการหมุนวงล้อพระธรรมจักร คำว่า “ธรรมราชิก” มีความหมายถึง “สถูปแห่งพระธรรมราชา” ซึ่ง “พระธรรมราชา” ก็คือพระสมัญญานามของพระพุทธเจ้านั่นเอง แต่ในอีกนัยหนึ่ง ยังอาจหมายถึงสถูปที่สร้างโดยกษัตริย์ผู้ทรงธรรม ซึ่งก็คือองค์พระเจ้าอโศกมหาราชนั่นเอง

สถูปดั้งเดิมที่พระเจ้าอโศกทรงสร้างนั้น เป็นสถูปอิฐขนาดไม่ใหญ่นัก มีลักษณะเป็นทรงโอคว่ำหรือครึ่งวงกลมเรียบง่าย ภายในประดิษฐานผอบศิลาที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ประวัติธรรมราชิกสถูป ณ สารนาถ: สถูปแห่งพระธรรมราชา สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองและอนิจจัง
ประวัติธรรมราชิกสถูป ณ สารนาถ: สถูปแห่งพระธรรมราชา สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองและอนิจจัง

การบูรณปฏิสังขรณ์และการต่อเติม

ตลอดระยะเวลากว่าพันปีที่สารนาถเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญ ธรรมราชิกสถูปได้รับการบูรณะและต่อเติมจากกษัตริย์และพุทธศาสนิกชนในยุคต่อๆ มาหลายครั้งหลายครา จากการขุดค้นทางโบราณคดีพบว่า สถูปองค์นี้ถูกห่อหุ้มและขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นถึง 6 ครั้งในยุคสมัยที่แตกต่างกัน เช่น ในสมัยราชวงศ์คุปตะ (พุทธศตวรรษที่ 9-11) ซึ่งเป็นยุคทองของศิลปะอินเดีย ได้มีการเสริมสร้างทางเดินประทักษิณและประดับตกแต่งสถูปให้งดงามยิ่งขึ้น

หลวงจีนฟาเหียนและหลวงจีนเหี้ยนจัง (พระถังซัมจั๋ง) ซึ่งเดินทางมาสืบพระศาสนาที่อินเดียในพุทธศตวรรษที่ 10 และ 12 ตามลำดับ ได้บันทึกถึงความยิ่งใหญ่และความสูงตระหง่านของสถูปองค์นี้ไว้ในจดหมายเหตุการเดินทางของท่าน

จุดสิ้นสุดอันน่าสลด

ความรุ่งเรืองของธรรมราชิกสถูปดำเนินมาจนถึงจุดสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2337 (ค.ศ. 1794) ในยุคที่สารนาถได้โรยราและถูกทิ้งร้างไปแล้ว ราชาเชต สิงห์ (Chet Singh) มหาราชาแห่งพาราณสี ได้มอบหมายให้ จกัต สิงห์ (Jagat Singh) อมนตรี (เสนาบดี) ของเขา ไปรื้ออิฐจากสถูปเก่าแก่ในสารนาถเพื่อนำไปใช้ก่อสร้างตลาดแห่งใหม่ในเมืองพาราณสีที่ชื่อว่า “ตลาดจกัตคัญช์” (Jagatganj)

ในระหว่างการรื้อถอนนั้น คนงานได้ค้นพบผอบศิลา 2 ชั้น ชั้นนอกเป็นหินทราย และชั้นในเป็นหินอ่อน ภายในผอบหินอ่อนบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับไข่มุก อัญมณี และแผ่นทองคำ แต่ด้วยความไม่รู้ในคุณค่าอันประเมินมิได้ของโบราณวัตถุชิ้นนี้ จกัต สิงห์ ได้นำพระบรมสารีริกธาตุไปลอยทิ้งในแม่น้ำคงคาตามความเชื่อของศาสนาฮินดู คงเหลือไว้เพียงผอบศิลาซึ่งปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์อินเดียในเมืองโกลกาตา ส่วนโบราณวัตถุอื่นๆ สูญหายไปเกือบทั้งหมด

การกระทำของจกัต สิงห์ ได้ทำลายโบราณสถานอายุกว่า 2,000 ปี จนเหลือเพียงฐานรากทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 13.5 เมตร (44 ฟุต) ดังที่เห็นในปัจจุบัน

ประวัติธรรมราชิกสถูป ณ สารนาถ: สถูปแห่งพระธรรมราชา สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองและอนิจจัง
ประวัติธรรมราชิกสถูป ณ สารนาถ: สถูปแห่งพระธรรมราชา สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองและอนิจจัง

มรดกที่ยังหลงเหลือ

แม้ธรรมราชิกสถูปจะถูกทำลายลงไปอย่างน่าเสียดาย แต่การรื้อถอนในครั้งนั้นก็ได้จุดประกายให้โลกตะวันตกหันมาสนใจการสำรวจทางโบราณคดีในอินเดียอย่างจริงจัง นำไปสู่การขุดค้นครั้งสำคัญโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษอย่าง เซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิงแฮม ซึ่งทำให้สารนาถฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาในฐานะพุทธสถานสำคัญของโลกอีกครั้ง

ปัจจุบัน ฐานของธรรมราชิกสถูปยังคงตั้งตระหง่านอยู่ ณ ตำแหน่งเดิม ใกล้กับธัมเมกขสถูปและเสาอโศก เป็นอนุสรณ์สถานที่บอกเล่าเรื่องราวความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าอโศกมหาราช ความรุ่งโรจน์ของพระพุทธศาสนาในอดีต และสัจธรรมแห่งความไม่เที่ยงแท้ของสรรพสิ่ง (อนิจจัง) ให้แก่พุทธศาสนิกชนและผู้มาเยือนได้รำลึกถึงตราบจนทุกวันนี้


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....