
ความหมายของพุทธศาสนสุภาษิต “ความอยากย่อมเสือกไสนรชน”
พุทธศาสนสุภาษิต “ความอยากย่อมเสือกไสนรชน” มาจากพระบาลีบทว่า อิจฺฉา นรํ ปริกสฺสติ. (สํ. ส. ๑๕/๖๑.) ซึ่งมีความหมายที่เน้นย้ำมากขึ้นถึงการผลักดันหรือขับเคลื่อนให้ทำสิ่งต่างๆ อย่างแรงกล้า สุภาษิตนี้จึงมีความหมายดังนี้
ความหมายโดยตรง:
ความอยากหรือตัณหา ย่อมผลักดันหรือขับเคลื่อนมนุษย์ให้ทำสิ่งต่างๆ
ความหมายโดยนัย:
- ความอยาก/ตัณหา: หมายถึง ความปรารถนา ความต้องการ ความใคร่ ที่มีอยู่ในใจมนุษย์อย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์
- เสือกไส: หมายถึง การผลักดัน ขับเคลื่อน หรือกระตุ้นอย่างแรงกล้า ให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มักมีความหมายในเชิงที่ควบคุมได้ยาก หรืออาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ดี
- นรชน: หมายถึง มนุษย์ หรือคนทั่วไป
ขยายความ:
- พลังของตัณหา: สุภาษิตนี้แสดงให้เห็นถึงพลังอันแรงกล้าของตัณหา ที่สามารถผลักดันมนุษย์ให้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากมาย ทั้งในทางที่ดีและทางที่เลว ตัณหาเป็นเหมือนแรงขับเคลื่อนภายในที่ควบคุมได้ยาก หากขาดสติ
- การกระทำตามแรงผลักดัน: เมื่อถูกตัณหา “เสือกไส” มนุษย์มักจะทำตามแรงกระตุ้นนั้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้พิจารณาถึงผลที่จะตามมาอย่างรอบคอบ
- ผลกระทบที่ตามมา: การกระทำตามความอยากที่ถูก “เสือกไส” อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ดี เช่น ความผิดพลาด ความทุกข์ ความเดือดร้อน หรือแม้กระทั่งการทำผิดศีลธรรม
ตัวอย่างในชีวิตประจำวัน:
- การบริโภค: ความอยากกินอาหารอร่อย อาจเสือกไสให้คนกินมากเกินไป จนเกิดผลเสียต่อสุขภาพ
- การใช้จ่าย: ความอยากได้สิ่งของฟุ่มเฟือย อาจเสือกไสให้คนใช้จ่ายเกินตัว จนเป็นหนี้สิน
- ความสัมพันธ์: ความอยากมีคนรัก อาจเสือกไสให้คนทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้ได้ความรักมา
ความสำคัญในพระพุทธศาสนา:
- สมุทัย (เหตุแห่งทุกข์): ตัณหาเป็นรากเหง้าของความทุกข์ทั้งปวง การถูกตัณหา “เสือกไส” อย่างรุนแรง ยิ่งนำไปสู่ความทุกข์มากขึ้น
- การดับทุกข์: การดับตัณหา คือ การดับเหตุแห่งทุกข์ การเจริญสติ สมาธิ และปัญญา เป็นหนทางในการควบคุมและดับตัณหา
ความแตกต่างจากสุภาษิตอื่น:
- แม่น้ำเสมอด้วยตัณหา ไม่มี: เปรียบเทียบความรุนแรงของตัณหาว่าไม่มีสิ่งใดเทียบเท่า
- ความอยากละได้ยากในโลก: เน้นความยากลำบากในการกำจัดตัณหา
- ความอยากมีอารมณ์หาที่สุดมิได้เลย: เน้นลักษณะของตัณหาที่ไม่รู้จักพอ
- ความอยากย่อมเสือไสซึ่งนรชน/ความอยากย่อมเสือกไสนรชน: เน้นอิทธิพลของตัณหาที่มีต่อการกระทำของมนุษย์ โดย “เสือกไส” เน้นความรุนแรงของการผลักดันมากกว่า “เสือไส”
สรุป:
“ความอยากย่อมเสือกไสนรชน” เป็นพุทธศาสนสุภาษิตที่เตือนใจให้เราตระหนักถึงพลังอันแรงกล้าของตัณหา ที่สามารถผลักดันให้เราทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรุนแรง การทำความเข้าใจในความหมายของสุภาษิตนี้ จะช่วยให้เรามีสติ รู้จักควบคุมความอยาก และไม่ปล่อยให้ตัณหา “เสือกไส” เราไปในทางที่ผิด
การศึกษาและพิจารณาสุภาษิตนี้ร่วมกับหลักธรรมคำสอนอื่นๆ ในพระพุทธศาสนา จะช่วยให้เราเข้าใจถึงแก่นธรรมได้อย่างลึกซึ้ง และนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง