
พุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “การที่ไม่ดีและไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ทำได้ง่าย” มาจากพระบาลีบทว่า “สุกรานิ อสาธูนิ อตฺตโน อหิตานิ จ.” (ขุ. ธ. ๒๕/๓๗.)
พุทธศาสนสุภาษิตนี้ ชี้ให้เห็นถึงธรรมชาติของมนุษย์ ที่มักจะเอนเอียงไปทางสิ่งที่ง่าย แม้สิ่งนั้นจะไม่ดีและไม่เป็นประโยชน์ก็ตาม
“การที่ไม่ดีและไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ทำได้ง่าย” หมายความว่า การทำสิ่งที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง เช่น การโกหก การลักขโมย การเบียดเบียนผู้อื่น การตามใจตัวเองในทางที่ผิด มักจะเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้ความพยายาม ไม่ต้องฝืนใจตนเองมากนัก เพราะเป็นการกระทำที่สอดคล้องกับกิเลสตัณหาของมนุษย์
ตัวอย่างเช่น
- การนอนตื่นสาย เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่าการตื่นเช้ามาออกกำลังกาย
- การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่าการประหยัดอดออม
- การผัดวันประกันพรุ่ง เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่าการลงมือทำทันที
พุทธศาสนสุภาษิตนี้สอนให้เรา:
- รู้เท่าทันกิเลสตัณหาของตนเอง มนุษย์มักมีแนวโน้มที่จะทำในสิ่งที่ง่าย สิ่งที่สนองความต้องการของตน แม้สิ่งนั้นจะไม่ดีก็ตาม ดังนั้น เราจึงต้องรู้เท่าทันกิเลสของตนเอง และพยายามควบคุมมัน
- ฝึกฝนตนเองให้ทำในสิ่งที่ดี การทำความดี การทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ มักเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความพยายาม ต้องฝืนใจตนเอง ดังนั้น เราจึงต้องหมั่นฝึกฝนตนเอง ให้มีความขยัน อดทน และมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่ดี
- ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต ก่อนที่จะทำสิ่งใด ควรใช้สติปัญญาไตร่ตรองให้รอบคอบว่า สิ่งนั้นดีหรือไม่ เป็นประโยชน์หรือไม่ และควรเลือกทำในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ แม้จะต้องใช้ความพยายามก็ตาม
สรุป พุทธศาสนสุภาษิตนี้เตือนใจให้เราไม่ประมาท และไม่หลงไปกับสิ่งที่ง่าย แต่ควรตั้งใจทำในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ แม้จะต้องใช้ความพยายามมากก็ตาม เพื่อที่จะได้มีความสุขความเจริญในชีวิต