
เมืองนารา, ญี่ปุ่น – พระใหญ่ไดบุตสึ (Daibutsu) หรือที่รู้จักในพระนามอย่างเป็นทางการว่า “พระไวโรจนพุทธะ” ประดิษฐาน ณ วัดโทไดจิ (Tōdai-ji) ในเมืองนารา ถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น พระพุทธรูปสำริดขนาดมหึมาองค์นี้ไม่เพียงแต่เป็นสมบัติของชาติ แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจและแรงศรัทธาของชาวพุทธในญี่ปุ่นมานานกว่าสหัสวรรษ
ประวัติศาสตร์และความเป็นมา
พระใหญ่ไดบุตสึถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิโชมุ (ค.ศ. 724-749) ผู้ทรงมีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า การสร้างพระพุทธรูปองค์นี้เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 743 และสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 752 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องบ้านเมืองจากภัยพิบัติและความวุ่นวายต่างๆ รวมถึงเพื่อเป็นศูนย์กลางของวัดพุทธทั่วประเทศในสมัยนั้น การก่อสร้างในครั้งนั้นเป็นการระดมทรัพยากรและแรงงานจากทั่วประเทศ โดยมีประชาชนกว่า 2.6 ล้านคนร่วมแรงร่วมใจบริจาค
องค์พระพุทธรูปได้ผ่านกาลเวลาและการบูรณะซ่อมแซมครั้งสำคัญมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากถูกทำลายจากเหตุเพลิงไหม้ในสงครามช่วงปลายศตวรรษที่ 12 และศตวรรษที่ 16 องค์พระที่เห็นในปัจจุบันนี้ แม้จะมีการบูรณะในส่วนต่างๆ เช่น พระเศียรและพระหัตถ์ แต่ก็ยังคงความยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเช่นเดียวกับในอดีต

ขนาดและลักษณะทางพุทธศิลป์
พระใหญ่ไดบุตสึแห่งนารามีขนาดที่น่าทึ่ง แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางวิศวกรรมและศิลปะขั้นสูงของญี่ปุ่นในสมัยโบราณ:
- ความสูงทั้งองค์: ประมาณ 14.98 เมตร
- น้ำหนัก: ประมาณ 500 ตัน
- พระพักตร์: มีความยาว 5.33 เมตร
- พระเนตร: ยาว 1.02 เมตร
- พระกรรณ (หู): ยาว 2.54 เมตร
องค์พระหล่อจากทองสำริด ประทับนั่งในท่าขัดสมาธิเพชร (ปางสมาธิ) บนฐานดอกบัว พระหัตถ์ขวายกขึ้นในปางประทานพร (Abhaya Mudra) ซึ่งสื่อถึงการขจัดความกลัว และพระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลาในปางประทานพร (Varada Mudra) สื่อถึงการให้พรและความเมตตา
วิหารไดบุตสึเด็น (Daibutsuden Hall)
พระใหญ่ไดบุตสึประดิษฐานอยู่ภายใน “วิหารไดบุตสึเด็น” ซึ่งเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าวิหารหลังปัจจุบันที่สร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1709 จะมีขนาดเพียง 2 ใน 3 ของวิหารหลังเดิมในศตวรรษที่ 8 แต่ก็ยังคงความโอ่อ่าและยิ่งใหญ่ โครงสร้างไม้ขนาดมหึมาที่รองรับน้ำหนักของหลังคาและองค์พระเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจ
ภายในวิหาร นอกจากองค์พระประธานแล้ว ยังมีเสาไม้ต้นหนึ่งที่มีช่องลอดผ่าน ซึ่งมีความเชื่อกันว่าผู้ใดที่สามารถลอดผ่านช่องนี้ได้ จะโชคดีและได้รับการตรัสรู้ในชาติหน้า

ความสำคัญทางวัฒนธรรมและศาสนา
พระใหญ่ไดบุตสึและวัดโทไดจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในฐานะส่วนหนึ่งของ “อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของนาราโบราณ” ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่มีการประกอบพิธีกรรมสำคัญต่างๆ ตลอดทั้งปี ดึงดูดผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่และสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล





